กลายเป็นประเด็นในโลกออนไลน์หลังมีการแชร์คลิป เกี่ยวกับการที่นำไข่ต้ม ที่นำมาต้มในเวลาที่ต่างกัน และพบว่าฟองที่ต้มไปนานกว่า 10 นาทีนั้น บริเวณรอบๆของไข่แดงเริ่มมีสีเขียว ซึ่งในคลิปดังกล่าวเป็นคลิปจากรายการทีวีของต่างประเทศ โดยพิธีกรดำเนินรายการบอกว่า ไข่ที่ต้มที่มีสีเขียวนั้น อันตรายกินแล้วอาจจะก่อให้เป็นมะเร็งได้ โดยอาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ได้ออกมาชี้แจงถึงคลิปนี้ว่า ‘ไข่ต้มนาน จนไข่แดงมีสีเขียว’ ไม่ได้ก่อมะเร็ง
ล่าสุดเมื่อวานนี้ 4 มกราคม 2561 เพจเฟซบุ๊ก ‘อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์’ ของ รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้มีการออกมาโพสต์ชี้แจง ถึงคลิปดังกล่าวว่า ‘ ไข่ต้มนาน จนไข่แดงมีสีเขียว … ไม่ได้ก่อมะเร็งครับ ‘
และยังมีการอธิบายเพิ่มเติมข้อมูลอีกด้วยว่า
‘ สีเขียวที่เห็นขึ้นเป็นชั้นรอบไข่แดงต้มนั้น ไม่ใช่ความผิดปรกติของไข่ แต่เกิดจากการที่เราต้มไข่นานเกินไป จนทำให้ ธาตุซัลเฟอร์ (กำมะถัน) และไฮโดรเจนตามธรรมชาติในไข่ขาว ทำปฏิกิริยากันเกิดเป็นไฮโดรเจนซัลไฟด์ขึ้น
แล้วไฮโดรเจนซัลไฟด์นี้ไปทำปฏิกิริยากับธาตุเหล็กตามธรรรมชาติในไข่แดง เกิดเป็นสารประกอบสีเขียวอมเทา ชื่อ เฟอรัสซัลไฟด์ (ferrous sulfide) หรืออีกชื่อคือ ไอรอนซัลไฟด์ (iron sulfide) ซึ่งไม่ใช่สารอันตราย หรือ ก่อมะเร็ง อย่างที่ว่าแต่อย่างไร
วิธีการหลีกเลี่ยงการเกิดสารสีเขียวนี้ คือการต้มไข่ไม่ให้นานเกินไป และให้ไปแช่น้ำเย็นทันที จะหยุดการเกิดปฏิกิริยาได้ครับ ‘
ความคิดเห็นจากสมาชิกเฟซบุ๊ก
comments