วันนี้ 20 มิถุนายน 60 หัวหน้างานบริการวิชาการทางดาราศาสตร์ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.) นายศุภฤกษ์ คฤหานนท์ ได้เผยว่า ช่วงเดือน มิถุนายน ดวงอาทิตย์ตกค่อนข้างช้า กว่าจะตกลับขอบฟ้าก็เป็นเวลาใกล้หนึ่งทุ่ม เนื่องจากเป็นเดือนที่ประเทศทางซีกโลกเหนือได้รับปริมาณแสงจากดวงอาทิตย์นานที่สุดในรอบปี เกิดจากการที่โลกหมุนรอบตัวเอง (ใช้เวลาประมาณ 1 วัน)

ในขณะเดียวกันโลกก็โคจรรอบดวงอาทิตย์ (ใช้เวลาประมาณ 1 ปี) และเนื่องจากแกนโลกเอียงทำมุม 23.5 องศากับแนวตั้งฉากกับแนวโคจรรอบดวงอาทิตย์ ส่วนของโลกที่หันเข้าหาดวงอาทิตย์จึงแตกต่างกันไป รวมถึงรังสีดวงอาทิตย์ที่ตกตั้งฉากกับพื้นโลกก็เปลี่ยนไปตามช่วงเวลา ของแนวทางการโคจร ทำให้ส่วนต่างๆ ของโลกได้รับแสงอาทิตย์ไม่เท่ากันและมีอุณหภูมิต่างกัน เป็นสาเหตุของการเกิดฤดูกาล

ซึ่งพรุ่งนี้ 21 มิถุนายน 60 ดวงอาทิตย์จะขึ้นทาง ทิศตะวันออกเฉียงไปทางเหนือมากที่สุด และ ตกทางทิศตะวันตกเฉียงไปทางเหนือมากที่สุด จึงเป็นวันที่มีช่วงเวลากลางวันยาวที่สุดในรอบปีของประเทศทาง ซีกโลกเหนือ ในภาษาสันสกฤตเรียกว่า “ วันครีษมายัน ”หรือ Summer Solstice

สำหรับประเทศไทยในวันที่ 21 มิ.ย. 2560 ดวงอาทิตย์จะขึ้นจากขอบฟ้าทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือเวลาประมาณ 05.51 น. และตกลับขอบฟ้าทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเวลาประมาณ 18.47 น. ดวงอาทิตย์ปรากฏอยู่บนท้องฟ้าเป็นเวลารวมกว่า 12 ชั่วโมง56 นาที (เวลา ณ กรุงเทพมหานคร)

ซึ่งคำว่า “ Solstice ” เป็น ภาษาอินโดยูโรเปียน Stice หมายถึง สถิต หรือ หยุด ดังนั้น Summer Solstice หมายถึง วันที่ดวงอาทิตย์ไม่เคลื่อนที่ เพราะดวงอาทิตย์เคลื่อนที่ไปทางเหนือเรื่อยๆ ตั้งแต่เดือนมี.ค.และหยุดที่จุดเหนือสุดในวันที่ 21 มิ.ย. หลังจากนั้นจะค่อยๆ เคลื่อนที่ลงมาทางใต้ ในทางฤดูกาลนับเป็นวันเริ่มต้นฤดูร้อนในซีกโลกเหนือ และเริ่มต้นฤดูหนาวในซีกโลกใต้

สนับสนุนภาพ ข่าว : สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ , tnnthailand

 

ความคิดเห็นจากสมาชิกเฟซบุ๊ก

comments