เกลื่อนโซเชียลกับเพจข่าวคลิกเบท ที่ นำเสนอข่าวมั่ว ทำครูหนุ่มในจังหวัดอุดรธานี เสียชื่อเสียงอย่างมาก หลังแชร์ข่าว นำเสนอเนื้อหาข่าว ภาพข่าวไปในโลกออนไลน์ว่า ครูทำโทษเด็กอนุบาลที่มาโรงเรียนสาย โดยการกัดหน้าเด็กจนเนื้อหลุด ด้านชาวเน็ตอยากให้แจ้งดำเนินคดี
เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 60 ที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ‘Khwanlita Wongchana’ ซึ่งเป็นน้องสาว ของครูหนุ่มคนดังกล่าว สอน นักเรียนระดับชั้นมัธยม อยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน จังหวัดอุดรธานี เป็นผู้ถูก เพจคลิกเบท ที่ใช้ชื่อเพจว่า ‘สำนักข่าวออนไลน์’ นำเสนอเนื้อหาใส่ร้ายว่า ครูหนุ่มคนดังกล่าว ลงโทษเด็กอนุบาล ที่มาโรงเรียนสาย โดยการกัดที่หน้าจนเป็นแผล และเนื้อหลุด
และผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ‘Khwanlita Wongchana’ น้องสาวของครูคนดังกล่าว โพสต์รูปภาพ พร้อมระบุข้อความว่า
‘นี้คือภาพต้นฉบับกับภาพที่โดนคัดลอกไปเพื่อทำให้เสียๆหายๆ นี้คืองงมากพี่หนูสอนอยู่ รร.มัธยมล้วนคร่า😡 แล้วนี้มาเอารูปเค้าไปทำแบบนี้เพื่ออะไรคะ!!! ต้องการอะไรกับสังคม!!! แล้วคนในภาพที่เค้าโดนแบบนี้จะรู้สึกยังไง ไม่ใช่แค่เสียชื่อเสียงของเค้า แต่นี้รวมไปถึงสถาบันของเค้าด้วย #สามัญสำนึกของคนทำข่าวมีไหมห่ะ 🖕’
หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่และชาวเน็ตรู้ว่าข่าวนั้นไม่เป็นความจริง เป็นข่าวที่มีเนื้อหามั่ว จึงได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นในโพสต์ดังกล่าวว่า รูปภาพเด็กที่มีบาดแผลที่ใบหน้านั้น เกิดขึ้นในประเทศกัมพูชา ซึ่งถูกสุนัขกัดที่แก้ม ส่วนข่าวที่บอกว่าครูกัดหน้านั้นไม่เป็นความจริง เอารูปภาพมารวมเป็นเรื่องเดียวกัน สร้างข่าวมั่ว ปั่นเพจพร้อมเสนอให้แจ้งความดำเนินคดีกับทางเพจที่เขียนข่าวมั่ว อีกเป็นจำนวนมาก
เฟซบุ๊กส่วนตัวแม่ของเด็ก ประเทศกัมพูชา ที่โดนสุนัขกัดหน้า
ล่าสุดเมื่อวานนี้ 28 พ.ย. 60 ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ‘อรนุช ซื่อสัตย์’ เป็นอาจารย์จาก ‘มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี’ อาจารย์ผู้ที่เคยสอนและใกล้ชิดกับ ครูหนุ่ม จังหวัดอุดรธานี ที่ถูกนำรูปไปใช้ กุข่าวมั่ว ว่ากัดหน้าเด็ก โพสต์ระบุข้อความว่า
‘ดิฉัน อาจารย์อรนุช ซื่อสัตย์ข้าราชการบำนาญ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานีก่อนเกษียณอายุราชการ สังกัดสาขาวิชาภาษาไทย ได้สอนนายสุรเชษฐ์ วงศ์ชนะที่ปรากฏในภาพจากข่าวที่ผู้เขียน ต้องกลับไปศึกษาจรรยาบรรณของการเขียนข่าวใหม่ เพราะได้สร้างความเสียหายให้นายสุรเชษฐ์หรืออาจารย์สุรเชษฐ์ วงศ์ชนะ สังกัดโรงเรียนอุดรพิทยานุกูล โรงเรียนมัธยมประจำจังหวัดมากมาย
ในฐานะครู ดิฉัน ขอยืนยันว่า สุรเชษฐ์ เป็นเด็กดีและเรียนดีมากเพราะได้สอนมาตั้งแต่ปี1เทอมแรกและได้ดูแลมาตลอด5ปีของการศึกษา ในปีที่5ได้ฝึกสอนที่โรงเรียนสตรีราชินูทิศ ในช่วงของการฝึกสอนสุรเชษฐ์และเพื่อนกลุ่มฝึกสอนได้ปฏิบัติงานอย่างดียิ่งจนเป็นที่ประจักษ์ คณะอาจารย์สาขาวิชาภาษาไทย จึงไม่แปลกใจ ที่ศิษย์ของเราสามารถบรรจุเข้ารับราชการ ที่โรงเรียนมัธยมชั้นหนึ่งคือ โรงเรียนอุดรพิทยานุกูลได้
ไม่ได้สอนโรงเรียนอนุบาลอย่างภาพข่าวที่ปรากฏ สุรเชษฐ์ เป็นศิษย์ที่ครูทุกคนภูมิใจ จึงรู้สึกแปลกใจว่า #ผู้เขียนข่าวมีวัตถุประสงค์อะไร การเขียนข่าวแบบนี้ น่าจะไม่ผ่านการอบรมการเขียนข่าวแน่นอน ที่มรภ.อุดรธานีมีสาขาวิชานิเทศศาสตร์ที่มีชื่อเสียงมาก มั่นใจว่าอาจารย์ทุกท่านในสาขานี้จะให้ความเมตตาชี้แนะ แน่นอน จะได้ไม่เขียนข่าวแบบ จับแพะชนแกะ สร้างความเสียหายให้คนดีๆอีกต่อไป ดิฉันมั่นใจว่าใครๆที่ได้รู้จักสุรเชษฐ์ รวมทั้ง ครอบครัวเอกไทยทุกคนก็คงช่วยกันยืนยัน ได้ว่า สุรเชษฐ์ คงไม่มีจิตผิดปกติเหมือนผู้เขียนข่าวแน่นอน อยากเห็นพลังหัวใจ ครอบครัวเอกไทยทุกคนค่ะ27พ.ย.60′
ความคิดเห็นจากสมาชิกเฟซบุ๊ก
comments