สลด!!เครนล้ม ทับคนตายกลางกรุงมักกะห์ ยอดเสียชีวิต 107 ศพ

เมื่อวันที่ 11 กันยายน เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญ เมื่อเครนก่อสร้างขนาดมหึมาล้มพังลงมาทับมัสยิดอัล-หะรอม หรือแกรนด์มัสยิดแห่งมักกะห์ (เมกกะ) ทางตะวันตกของประเทศซาอุดีอาระเบีย ขณะชาวมุสลิมมากกว่า 800,000 คน กำลังทำพิธีละหมาดวันศุกร์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 107 ราย บาดเจ็บ 238 ราย

เจ้าหน้าที่กองกำลังป้องกันพลเรือนของซาอุฯ เปิดเผยว่า สาเหตุของ เครนล้ม มาจากพายุรุนแรง ที่มีความเร็วลมประมาณ 83 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และฝนที่กระหน่ำอย่างหนัก โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากเมื่อวานช่วงเวลาบ่าย ตามเวลาท้องถิ่น ประเทศซาอุฯ เกิดพายุฝนพัดกระหน่ำบริเวณมัสยิด อัล-หะรอม และมีลมกระโชกรุนแรง เกิดเหตุฟ้าผ่าอย่างแรง ทำให้เครนก่อสร้างที่ตั้งอยู่ชั้น 3 ด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณประตูบาบุสสลาม ซึ่งเป็นประตูหลักการเข้าออกมัสยิด อัล-หะรอม ถล่มลงมา สร้างความโกลาหลวิ่งหนีตายกันของบรรดาผู้แสวงบุญ

หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวทางสำนักงานกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย ได้ตั้งหน่วยเฉพาะกิจทันทีเพื่อติดตามข่าวสารเหตุการณ์ เครนล้ม อย่างใกล้ชิด เพื่อติดตามการให้ความช่วยเหลือ พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ออกติดตามผู้ประสบภัยในโรงพยาบาลทุกแห่งในเมืองมักกะห์ หากพบมีคนไทยจะได้ดำเนินการได้ทันท่วงที ซึ่งจากการข่าวสารที่เป็นทางการของซาอุฯ ยังไม่พบผู้เสียชีวิตเป็นสัญชาติไทย พบเพียงผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย เป็นชาย 1 ราย และหญิง 2 ราย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาลบาลมาลิก อัลไฟซอล มีรายชื่อคือนางแมะเยาะห์ แดมอ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27 หมู่ 1 ต.ช้างไห้ตก อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี อาการค่อนข้างหนัก มีอาการเจ็บหน้าอก และมีบาดแผลบริเวณใบหน้า แต่มีสติตลอดเวลา พูดคุยได้ และนายสะมาแอ ซาซู อยู่บ้านเลขที่ 50 หมู่ 1 ต.ยะหา อ.ยะหา จ.ยะลา อาการเจ็บหัวเข่า ขาขวา และมีบาดแผลบริเวณใบหน้า ล่าสุดทั้งสองรายอาการปลอดภัยแล้ว อยู่ในความดูแลของแพทย์ไทย ในแคมป์แพทย์ประจำประเทศไทย ในนครมักกะห์ ส่วนอีกรายหนึ่งคือ นางซอลีฮะ ยีเร็ง ยังไม่ทราบอายุ ภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.สงขลา มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย แพทย์อนุญาตให้กลับโรงแรมที่พักได้

วันที่ 13 กันยายน สำนักงานกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย แถลงการณ์ว่ามีผู้ประกอบพิธีฮัจย์ชาวไทยสูญหาย 3 ราย กำลังระดมเจ้าหน้าที่ออกติดตามในโรงพยาบาลต่างๆในเมืองมักกะห์ แต่ยังไม่พบข้อมูลเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ทางการซาอุฯ ยืนกรานว่าจะเดินหน้าจัดพิธีฮัจญ์ต่อไป โดยจะเร่งซ่อมแซมพื้นที่ประสบเหตุซึ่งคาดว่าจะใช้เวลา 2-3 วัน ส่วนผู้เสียชีวิตสำนักงานกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย ณ เมืองมักกะห์ จะประสานกับญาติผู้เสียชีวิตและทางการซาอุดิอาระเบีย เพื่อดำเนินการเรื่องการฝังศพและมรณบัตร

คลิปจาก ศาสนาอิสลามคือการตักเตือน

ความคิดเห็นจากสมาชิกเฟซบุ๊ก

comments