นายทิม คุก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Apple แถลงผลประกอบการล่าสุดใน ไตรมาสแรกของปี 2017 ว่ายอดขายโทรศัพท์มือถือ iPhone ทุกรุ่นอยู่ที่ 50.8 ล้านเครื่อง ในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งนับว่าลดลง 1% เมื่อเทียบกับยอดขายช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยระบุเพิ่มเติมอีกด้วยว่า ยอดขายไอโฟนที่ลดลงอาจเนื่องมาจากผู้บริโภคต่างเฝ้ารอซื้อไอโฟนรุ่นใหม่ที่จะออกวางตลาดภายในปีนี้

 โดยจากข้อมูลผลประกอบการล่าสุดนี้ ทำให้มูลค่าหุ้นของ Apple ตกลง 2% หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ขึ้นไปแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพราะนักลงทุนพากันคาดการณ์ว่า Apple น่าจะมีผลประการณ์ที่ดีขึ้นในไตรมาสแรกปีนี้

  ทั้งนี้นักวิเคราะห์ยังมองว่า Apple จะตกที่นั่งลำบาก หากไม่สามารถวางตลาดอุปกรณ์ที่มีเทคโนโลยีใหม่ๆอย่างแท้จริงออกมาได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ iPhone 8 ที่จะวางตลาดช่วงปลายปีนี้ และ iPhone รุ่นที่ระลึกครบรอบ 10 ปีกำเนิด iPhone ซึ่งก็คาดว่าจะวางตลาดในเดือนกันยายนนี้เช่นกัน

  โดยเหล่าบรรดานักวิเคราะห์ยังเผยอีกด้วยว่า ยอดขาย iPhone ซึ่งเป็นสินค้าหลักที่ต่ำลงนั้นแสดงว่า Apple ยังคงไม่สามารถที่จะก้าวข้ามภาวะผลประกอบการตกต่ำ ซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่ปีงบประมาณที่ผ่านมาได้ โดย Apple มีรายได้รวมของกิจการเพิ่มขึ้น 4.6% ที่ 52,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยรายได้ที่ลดลงจากการขาย iPhone นั้นได้ถูกชดเชยด้วยรายได้ที่เพิ่มขึ้น 18 % จากภาคบริการ เช่นแอปเปิลเพย์ ไอคลาวด์ และแอปสโตร์ นอกจากนี้ ยอดขายนาฬิกาข้อมืออัจฉริยะแอปเปิลวอทช์ ก็ยังคงเพิ่มสูงขึ้นด้วย

ภาพ ข่าว : BBC Thai