กำลังเป็นกระแสอย่างหนักในสังคมออนไลน์ หลังลูกค้ารายหนึ่งซื้อรถหรูป้ายแดงขับไปแค่ 5 เดือนสตาร์ทไม่ติด ช่างชำแหละรถยับ เจ้าของรถถึงกับฝันสลาย โดยเรื่องราวนี้เผยแพร่บนเว็บไซต์ พันทิปดอทคอม โดยสมาชิกหมายเลข 1536886 โดยระบุว่า “นี่หรือรถป้ายแดง 5 เดือน มาดูสภาพกันค่ะ” พร้อมภาพสภาพรถป้ายแดงค่ายรถชื่อดังดังกล่าว จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้างนั้น

โดยเจ้าของกระทู้เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้คุณพ่อ วัย 66 ปี มีความฝันที่อยากมีรถยนต์ยุโรปค่ายดัง ป้ายแดงสักคันไว้ขับในชีวิตนี้ จึงได้ไปลองรถเมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา ผ่านการแนะนำของเซลล์ ซึ่งเป็นเพื่อนพี่ชายที่คุณพ่อไว้ใจ โดยแนะนำรถยนต์หรูรุ่นระบบไฮบริดให้ โดยอ้างว่าประหยัด มีความคุ้มค่า เมื่อคุณพ่อลองขับรถก็ชื่นชอบมาก จึงได้มัดจำเงินสดไว้ 5 หมื่นบาท

วันรุ่งขึ้นจึงได้นำเงินมาจ่ายจนครบเป็นเงินสดกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งในวันนั้นได้ขับรถไปแล้วปรากฎว่า มีเสียงลมเข้ามาในรถ ทางบริษัทจึงจะเปลี่ยนรถให้ แต่คันที่เปลี่ยนอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ คุณพ่อและพี่ชายจึงนั่งเครื่องบินจาก จ.ภูเก็ต ไปรับรถคันดังกล่าวเพื่อขับกลับมา โดยบริษัทเป็นผู้ออกค่าที่พักและตั๋วเครื่องบินให้ แต่ก็ยังคงมีเสียงลมเข้ามาภายในห้องโดยสารเช่นเดิม แต่ดังน้อยกว่าคันเก่า จึงคิดว่าคงเป็นเรื่องปกติของรถรุ่นนี้

จนผ่านไป 5 เดือน รวมระยะการใช้งานรถ ประมาณ 8 พันกว่า กม. รถกลับสตาร์ทไม่ติดในวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา จึงได้ส่งศูนย์ซ่อม ซึ่งเมื่อคุณพ่อและพี่ชายเข้าไปดู กลับพบว่าได้มีการชำแหละชิ้นส่วนรถ และนำชิ้นส่วนมาวางไว้ที่เบาะหลัง โดยไม่มีอะไรรองรับ ซึ่งเป็นการทำงานที่ไม่เรียบร้อย ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน จึงเกรงว่าเมื่อรับรถกลับไปจะเกิดปัญหาได้ จึงแจ้งยืนยันที่จะไม่รับรถกับศูนย์บริการที่ซื้อรถ ซึ่งก็ไม่ได้รับคำตอบ

เมื่อติดต่อไปทางสาขาหลัก ตอบว่าไม่สามารถคืนรถให้ได้ ซึ่งในระหว่างที่ผ่านมา ทางตนยังไม่ได้รับหนังสือสัญญาซื้อขายรถ, กรมธรรม์ประกันภัยชั้น1 และรถยังไม่ได้จดทะเบียน ทั้งนี้ทางฝ่ายช่างอ้างว่า ส่วนที่เสียคือตัวคอนโทรลไฮบริด ซึ่งเป็นส่วนหัวใจของรถ คุณพ่อจึงได้นำเรื่องที่เกิดขึ้นร้องเรียนไปยังบริษัทต้นสังกัดรถที่ กทม. ก็เงียบหายไปบ้าง โทรศัพท์โทรไม่ติดบ้าง จนแจ้งทางตนว่า ถ้าคืนต้องหัก 30% เป็นเงิน 1 ล้านบาท ซึ่งรถที่ใช้งานไป 5 เดือน แต่กลับต้องจ่ายเท่านี้ ตนรู้สึกว่าไม่ยุติธรรม สุดท้ายเมื่อเรื่องผ่านมาถึงปัจจุบัน ตนจึงร้องเรียนไปยังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับใดๆ จากต้นสังกัดรถดังกล่าว

ความคิดเห็นจากสมาชิกเฟซบุ๊ก

comments