เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2559 ร.ต.อ.นิธินันท์ ศรีรุต รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.มาบตาพุด จ.ระยอง ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้าย งัดตู้เอทีเอ็ม จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการระยองและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มาบตาพุด ที่เกิดเหตุพบตู้เอทีเอ็มของธนาคารกสิกรไทย ถูกงัด ซึ่งตั้งบริเวณหน้าร้านพีพีซุปเปอร์มาเก็ต ถนนกรอกยายชา ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง

ที่เกิดเหตุมีชาวบ้านยืนมุงดูอยู่เป็นจำนวนมาก จากการตรวจสอบพบตู้เอทีเอ็มของธนาคารกสิกรไทย สภาพด้านหน้ามีร่องรอยถูกตัดด้วยแก็สตัดเหล็กจนขาดเป็นช่อง ส่วนกล่องใส่เงินภายในถูกคนร้ายขโมยไปจนหมดจนเหลือแต่ตู้เปล่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าคนร้ายได้ดันกล้องให้หันไปด้านบนเพดาน และบริเวณพงหญ้าข้างซุปเปอร์มาเก็ตพบเครื่องมือช่าง ไขควง คีมล็อคแว่นตาเชื่อม และกระเป๋าผ้าสีน้ำตาล คาดว่าน่าจะเป็นของคนร้าย เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้ไปตรวจสอบ

จากการสอบถามน.ส.สมพร วงศ์ภักดี อายุ 34 ปี ผู้จัดการร้านดังกล่าว ให้การว่า ตนมาทราบว่าตู้เอทีเอ็มถูกคนร้ายเจาะเอาเงินไป เมื่อเวลา 05.00 น. ที่ผ่านมา เนื่องจากเพื่อนบ้านได้มาบอกว่าตู้ถูกงัดจึงรีบออกมาดู ก่อนตั้งสติแล้วรีบแจ้งให้ธนาคารกสิกรไทยสาขาระยองทราบเรื่อง พร้อมกับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ

ด้านนายศิริพัฒน์ พรหมเกษ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 107 หมู่ 2 ต.หนองตาดใหญ่ อ.สีดา จ.นครราชสีมา พนักงานขนเงินบริษัทโปรเกสกันภัย กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากธนาคารกสิกรไทยให้มาตรวจสอบตู้เอทีเอ็มดังกล่าว ซึ่งเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมาได้นำเงินมาใส่ตู้เอทีเอ็ม แบ่งเป็นธนบัตรต่างๆ รวมกันเป็นเงิน 3 ล้านบาท โดยในส่วนของความเสียหายทางบริษัทได้ทำประกันภัยไว้วงเงินไม่เกิน 12 ล้านบาทต่อครั้ง

ขณะที่ร.ต.อ.นิธินันท์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่เกิดเหตุ พบคนร้ายได้มีการปรับมุมกล้องออกและตัดระบบไฟฟ้าช่วงเวลาประมาณ 04.43 น. คาดว่าใช้เวลาในการเจาะตู้เพียง 10 นาที คาดว่าคนร้ายน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 3 คน นับว่ามีความชำนาญในการใช้เครื่องมือช่างเป็นอย่างมาก โดยจะได้รวบรวมหลักฐานและตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้เคียง เพื่อหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่านอกจากนี้ยังมีตู้เอทีเอ็มอีกตู้ที่ถูกก่อเหตุลักษณะเดียวกัน ซึ่งเป็นตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย ตั้งอยู่บริเวณริมถนนสุขุมวิท หน้าสำนักงาน อบจ.ระยอง ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง ถูกคนร้ายใช้แก๊สเจาะตู้เช่นกัน แต่ไม่สามารถนำเงินไปได้ คาดว่าอาจจะมีคนเห็นจึงรีบหนีไปก่อน ซึ่งทางตำรวจคาดอาจจะเป็นฝีมือคนร้ายกลุ่มเดียวกัน เพราะมีการใช้เครื่องมือก่อเหตุในลักษณะเดียวกัน

 

ความคิดเห็นจากสมาชิกเฟซบุ๊ก

comments