เกิดเป็นกระแสในโลกโซเชียลอย่างหนัก เมื่อมีผู้ใช้เฟซบุ๊ครายหนึ่งชื่อ “Nu-sajee Kornrawee” ได้ทำการโพสต์คลิปและภาพถ่าย เพื่อไว้เป็นอุทาหรณ์ ให้กับคนอื่นๆ ในช่วงขณะที่น้องของหญิงสาวคนดังกล่าว นั้นเกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ช่วงที่กำลังรอแพทย์มาตรวจและทำการส่งเรื่อง ซึ่งน้องของตนนั้นต้องรอ และไม่มีใครเข้ามาดู จนกระทั่ง ” น้องนิว “ น้องของตนนั้น เกิดอาการช็อกหมดสติไป พยาบาลจึงเข้ามาทำ CPR และให้น้ำเกลือ แต่สุดท้ายก็ไม่ช่วยอะไรและน้องก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา

โดยผู้โพสต์ได้ระบุข้อความไว้ว่า “ฝากไว้เป็นอุทาหรณ์ อย่าให้ 1 ชีวิต ต้องเสียไป กับคำว่า “รอ”
*บันทึกความทรงจำ ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น*…. น้องปวดท้องมาก มากจนต้องส่งตัวฉุกเฉินจาก รพ.ชะอำ ไป รพ.พระจอมเกล้า เพชรบุรี ตั้งแต่เช้า ไปถึง พยาบาลบอกให้ *รอ* รอ รอ รอ รอ ทั้งๆ ที่น้อง ปวดมาก จนนั่งไม่ติดเก้าอี้ ปวดทรมานมาก อีกทั้ง หน้าก็บวมจากเดิมมากๆ ก้อยังบอก รอ รอ รอ รอ รอ นานมากๆ จนน้องช๊อค ล้มลงไป ช็อค น๊อค แล้วทำ CPR จนรู้สึกตัว ถึงได้เข้าตรวจ เข้าเอ็กซเรย์ ได้เข้าฉีดสี เข้าเครื่องคอม จนรู้ว่า เส้นเลือดใหญ่ในกระเพราะแตก …. แล้วออกมา ได้ภาพถ่าย 2 นิ้ว เป็นรูปสุดท้าย หลังจากนั้น น็อค อีก 1 ครั้ง และได้ปั้มหัวใจ แต่ครั้งนี้ น้องไม่กลับมาแล้ว ….. เพราะคำว่า “รอ” คำเดียวเท่านั้น…… ลองนึกดูนะ ถ้าน้องได้ตรวจได้เช็คตั้งแต่น้องมาถึง รพ. ก็อาจจะช่วยชีวิตน้องไว้ได้ …. *** ขอฝากถึง หมอ พยาบาล และ โรงพยาบาบ…. คุณเห็นอาการน้องแบบนี้แล้ว คุณน่าจะเห็นถึงความผิดปกติแล้วนะ อย่าคิดว่าน้องยังเด็ก น้องเป็นเด็ก อาจจะปวดไปเอง อดทนไม่ไหว…. ปวดท้องธรรมดารึป่าว ที่น้องปวด น้องทรมานมากจริงๆ และส่งตัวไปแบบฉุกเฉิน แต่ทำไมถึงยังต้องรอ …. ขอไว้เป็นอุทาหรณ์ สำหรับใครหลายๆคนด้วยค่ะ อย่าให้ใครต้องมาเสียชีวิต กับคำว่า “รอ”

ทั้งนี้ญาติ ได้นำศพ นายธีธัช หรือ “น้องนิว” หนุ่มน้อยวัย 15 ปี ไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดชะอำคีรี อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และจะมีพิธีฌาปนกิจในวันที่ 27 กรกฎาคม นี้ ซึ่งทางพี่สาว ผู้เป็นเจ้าของโพสต์ดังกล่าว บอกว่าขอให้เป็นรายสุดท้ายกับคำว่า “รอ “ ในกรณีฉุกเฉิน เพราะผู้ป่วยฉุกเฉินรอไม่ได้ และอยากถามว่าเป็นเพราะอะไรต้องให้รอจนน้องต้องเสียชีวิต  เพราะจากการเอ็กซเรย์ แพทย์ก็พบว่าเส้นเลือดใหญ่ที่ต่อกับขั้วหัวใจและปอดแตก ซึ่งมีอาการหนักมาก แต่ยังต้องรอดูอาการอีก ล่าสุดมีรายงานอีกด้วยว่า ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข อยู่ระหว่างเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่โรงพยาบาลพระจอมเกล้า จ.เพชรบุรี  เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง และจะมีการพูดคัยกับญาติผู้ตายด้วย

ความคิดเห็นจากสมาชิกเฟซบุ๊ก

comments