จากกรณีดราม่าที่ยังเป็นกระแสต่อเนื่องอยู่บนโลกออนไลน์ขณะนี้ เกียวกับปมเรื่องแย่งที่จอดรถ ของยิม สแมชยิม ของพิธีกรชื่อดังอย่าง บุ๋ม ปนัดดา กับยิม 911 by JT ของนางเอกสาว เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์ ซึ่งก่อนหน้านี้ฝั่งทางเพื่อนของนางเอกสาวได้มีการนำคลิปวีดีโอออกมาแฉ ขณะที่ สามีของ พิธีกรสาว เข้าไปโวยวายหาเรื่อง พร้อมกับมีการเผยว่าที่ไม่ให้จอดรถเป็นเพราะว่า่ทาง พิธีกรสาว ไม่ยอมจ่ายค่าส่วนกลาง ซึ่งทางฝั่งของสามีพิธีกรสาวงัดหลักฐานการทวงถามสัญญาเช่าที่ทาง เจนี่ ไม่ยอมดำเนินการให้จึงไม่สามารถจ่ายค่าส่วนกลางได้

ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2559 ทางพิธีกรสาว บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี พร้อมด้วยสามี เอก-เอกริน นิลเศรษฐีโต๊ะแถลงข่าวเปิดใจหมดเปลือก เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวที่ สแมชยิม ถ.เกษตรนวมินทร์ ทั้งนี้ บุ๋ม ได้กล่าวว่า “ออกมาพูดวันนี้เพราะรู้สึกว่าเรื่องบานปลาย โดยเฉพาะแฟนคลับที่ไม่รู้เรื่องของทั้งสองฝ่าย เริ่มที่จะพูดแรงและนอกประเด็น บุ๋มต้องการพูดเรื่องธุรกิจเท่านั้นไม่ได้ต้องการมีปัญหากับเจนี่หรือคุณแม่ของเจนี่ เพียงแต่ต้องการความเปลี่ยนแปลงเรื่องของการทำธุรกิจ อย่างที่เห็นว่าสแมชยิมตั้งอยู่ที่เดียวกับ 911 by JT ปัญหาต่างๆ มันสะสมมาและมาถึงจุดที่เราก็พยายามคุยแล้ว หลายคนถามทำไมไม่คุยกันเอง ทำไมไม่โทรหากัน ขอตอบตรงนี้ว่าเราทำทุกทางแล้วจริงๆ”

เอก เสริมว่า “คุยเยอะมาก ทั้งโทรคุย ทั้งเดินไปคุยด้วยตัวเอง ทั้งคุยกับเจนี่ ทั้งคุยกับคุณแม่ ทั้งคุยกับตัวแทน และคุยกับผู้จัดการ แต่ปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไข ก่อนอื่นขอท้าวความก่อนว่าต้นกำเนิดของสถานที่นี้มันเกิดจากมีบุ๋มกับรุ่นนักแสดงชื่อ ‘ท็อป-ณฐกร’ ที่เป็นนักแสดงและเป็นนักเทควันโด้”

บุ๋ม รับช่วงต่อว่า “นั่นคือจุดเริ่มต้นระหว่างบุ๋มกับน้องท็อปสองคนก่อน แล้วเจนี่มาขอร่วมหุ้นที่ 3 ตอนแรกคุยกันว่าจะเป็นหุ้น 3 คน ตามที่คุยกันไว้คือบุ๋มจะเป็นคนลงทุนในเรื่องอุปกรณ์ ส่วนท็อปกับเจนี่มีแค่ห้องเปล่าๆ กับเวทีมวย ลงทุนน้อยกว่าบุ่ม ฉะนั้นเอาเงินส่วนหนึ่งไปจ่ายค่าเช่าที่ ส่วนทางบุ๋มจะลงเครื่อง โดยจะทำงานร่วมกัน ฉะนั้นเจนี่กับท็อปก็จะเป็นผู้ที่ไปเซ็นสัญญาเป็นผู้เช่าที่”

เอก กล่าวว่า “อันนี้จะเป็นสัญญาเช่าเก่าระหว่างสแมชยิมกับท็อปและเจนี่ ซึ่งจะมีลายเซ็น 3 ฝ่าย โดยทางผมกับบุ๋มได้ชำระมัดจำค่าเช่าไปแล้ว 3 เดือนตามปกติ ตรงนี้จึงเป็นคำตอบว่าทำไมล่ะไม่มีสัญญาแล้วกล้าลงทุนไปได้ยังไง 10 กว่าล้าน ถึงเอามาให้ดูว่ามีสัญญา”

บุ๋ม กล่าวว่า “เพียงแต่ว่าหลังจากที่เซ็นสัญญาตรงนี้แล้ว เจนี่กับท็อปมีปัญหากัน ซึ่งบุ๋มจะไม่ขอแตะในเรื่องนี้ เมื่อมีปัญหากันเจนี่ก็เลยขอซื้อหุ้นทางท็อปก็เลยกลายเป็นแต่เพียงผู้เดียว การที่คุณไม่พูดถึงเราไม่เป็นไรทั้งที่ก็เริ่มต้นมาด้วยกัน แต่อยากถามสั้นๆ ว่าถ้าหากบุ๋มเป็นแค่ผู้เช่าจริงๆ จะจ่ายค่าก่อสร้างอาคารทำไมอีก 3 ล้านบาทร่วมกับเขา ถ้าเป็นแค่ผู้เช่าจริงๆ บุ๋มก็ลงทุนแค่ค่าตกแต่งพอมั้ย แต่เพราะเราลงทุนร่วมกัน เพียงแต่ว่าในตัวสัญญาเราดันยอมเขาในการเป็นผู้เช่าจากเขาอีกทีหนึ่ง นี่คือข้อผิดพลาดหนึ่ง อย่างที่สองเรื่องที่เขาผิดใจกันมันคือจุดเปลี่ยน แต่ของเราสั่งมาแล้วฉะนั้นต้องมีที่ลง”

เอก กล่าวว่า “ตอนนั้นเราเสนอแล้วว่าให้เขาซื้อพื้นที่คืนไป ซึ่งยังไม่ได้ตกแต่งแต่สร้างโครงสร้างหมดแล้ว เขาไม่ตกลงซื้อคืนแต่ให้เราเช่าต่อ งั้นก็มาเริ่มต้นกันใหม่ รวมถึงทางเขาก็เซ็นสัญญาใหม่เพราะสัญญาเก่าถือเป็นโมฆะ ซึ่งจนถึงบัดดี้ผมยังไม่ได้สัญญาเลย ตามหลักฐานที่ลงไปในไอจีว่าผมทวงถามถึงสัญญามาตั้งหลายเดือน ไม่ใช่ว่าทางเราไม่อยากจ่ายแต่ถ้าใครทำงานบริษัทจะทราบว่าการจะจ่ายเช็กได้ต้องมีสัญญาแนบ”

บุ๋ม กล่าวว่า “สัญญาก็ยังไม่ได้ แถมยังมีปัญหารายวันในเรื่องของที่จอดรถอีก”

เอก กล่าวว่า “ผมอยู่ยิมทุกวันก็จะโดนลูกค้าตำหนิทุกวันว่าทำไมขับมาก่อนแล้วไม่ให้จอด แต่เตรียมที่ไว้ให้คลาสซุมบ้าซึ่งคลาสไม่ได้มีทั้งวันในเวลาอื่นก็จอดได้ปกติ ผมก็ไม่เคยว่าอะไร แต่พอมีที่จอดว่างกลับไม่ให้จอด ผมเคยเดินไปยกกรวยออกเพื่อให้ลูกค้าถอยรถเข้า สำหรับเจ้าของกิจการแล้วเรื่องที่จอดรถเป็นเหตุผลที่ทำให้กิจการพังได้เลย บางคนเข้ามาวนรถไม่ได้จอดก็ขับกลับบ้านไปเลย

บุ๋ม กล่าวว่า “วันนี้ที่ต้องแถลงข่าวเพราะบุ๋มเสียใจ บอกตามตรงว่าเครียดมาหลายวัน ทุกครั้งที่ก้าวเข้ามาในสถานที่นี้มันรู้สึกเหมือนเช่าบ้านใครสักคนโดยที่ไม่รู้ว่าวันนี้จะเกิดปัญหาอะไร มันเครียดมาก แล้วก็เริ่มไม่ไหวแล้วด้วย วันนี้อยากพูดเพราะอยากแก้ปัญหาจริงๆ เลยตกลงกันว่าขึ้นไอจีเถอะเพราะมันไม่ไหวแล้ว ทำยังไงก็ได้เพื่อให้ได้แอ๊กชั่นกลับมา ขอให้เขาสนใจเราบ้าง แล้วคลิปที่ทุกคนเห็นกันก็รู้สึกเสียใจและเชื่อว่าทาง 911 by JT ต้องทราบเรื่องอย่างแน่นอนเพราะมันคือกล้องวงจรปิด ทั้งที่ก่อนหน้านี้ลูกค้าเรามีปัญหาเรื่องรถที่กันชนพัง พอจะไปขอดูกล้องวงจรปิดเขากลับไม่ให้ดูเพราะบอกว่าดูไม่เป็น ฉะนั้นถ้าบอกว่าไม่รู้เรื่องคงไม่ได้แล้ว แต่แค่เสียใจคือคนที่เจอหน้ากันทำไมไม่เดินมาคุยมาเคลียร์ โทรมาหาก็ได้ รับสายเราก็ยังดี บุ๋มถึงขนาดไลน์หาทุกคนแม้กระทั่งคุณกึ้ง(เฉลิมชัย) แต่กลายเป็นว่าเขาเงียบตลอด แล้วในคลิปเนี่ยอยากรู้ว่าปิดเสียงทำไม ทำไมต้องมีการทำคลิปแบบนี้ออกมาแล้วมีการส่งให้นักข่าว แล้วก็มีการไปแจ้งความที่สน. ดีนะคะที่นักข่าวคนนั้นโทรไปเช็กที่สน.ถึงทราบว่าไม่มีการแจ้งความแต่อย่างใด คุณโกหกนักข่าวแบบนี้เลยเหรอ การให้ข่าวแบบนี้มันเสียหายกับธุรกิจของเรา เสียหายกับภาพลักษณ์ของเรามากด้วย”

เอก กล่าวว่า “แล้วที่มีข่าวลงว่าเราติดค้างค่าเช่า 3 เดือน ไม่จ่ายค่าส่วนกลางห้องน้ำ ค่าที่จอดรถ ซึ่งจะพิจารณาให้ไม่ต่อสัญญา ผมถามหน่อยว่าสัญญาอะไรในเมื่อทุกวันนี้ผมยังไม่ได้สัญญาเลย แล้วถ้าไม่ได้สัญญาผมจะไปจ่ายค่าเช่าได้ยังไง แล้วค่ามัดจำที่ผมจ่ายไปแล้วล่ะ เงินเตรียมไว้ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังชี้แจงด้วยว่าของเขามีกิจกรรมคือมวยไทยและคลาสซุมบ้า แต่สแมชยิมผิดข้อตกลงด้วยการเปิดคลาสซุมบ้าซ้ำซ้อนแต่เลี่ยงว่าเป็นคลาสยืดเหยียด ไหนคือคลาสซุมบ้า ดูในแฟนเพจ มาที่สแมชยิม หรือลองถามลูกค้าก็ได้ ไม่มีคลาสซุมบ้าเลย มีแต่ยืดเหยียดเพราะคนเล่นกล้ามต้องทำทุกคน”

บุ๋ม กล่าวว่า “อยากถามคนที่ให้ข่าวซึ่งเราก็รู้ด้วยว่าคือใคร อยากถามสักคำว่าทำกันแบบนี้เพื่ออะไร ทำไมการทำธุรกิจมันน่าจะช่วยดูแลลูกค้าด้วยกันไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมถึงมองเป็นศัตรูคู่แข่ง ณ วันนี้สิ่งที่ต้องการก็คือทำข้อตกลงเถอะค่ะ สัญญามาเลยก็ได้วินาทีนี้จะจ่ายตังค์ให้ทันที เคยเห็นมั้ยว่าลูกหนี้ที่ไหนเป็นคนทวง นี่ไงเรานี่แหละค่ะที่ทวง แต่ถ้า ณ วันนี้เล่นปล่อยคลิปแบบนี้จงใจขนาดนี้ บุ๋มขอยื่นคำขาดแบบนี้เลยนะคะ ขอแค่ค่าก่อสร้างมาเหอะ 3 ล้านบาท ค่าตกแต่งไม่เอาสักบาท แล้วเราจะย้ายออก มันอยู่ไม่ได้แล้ว จะมองหน้ากันยังไง จะดูแลลูกค้ายังไง เราทำงานตั้งแต่ 7 โมงเช้ายันห้าทุ่มสำหรับยิมนี้ ดูแลลูกค้าเหมือนครอบครัว บุ๋มเข้าไปเล่นทุกคนทุกฝั่ง เหมือนพี่น้องเพราะบุ๋มไว้ใจเขา”

“บุ๋มไปนั่งกินข้าวกับเขาเพราะไว้ใจเขาแต่กลับโดนทำแบบนี้ มันคืออะไร บุ๋มไม่เข้าใจ บอกตามตรงว่าบุ๋มเครียดมากเมื่อวานถึงขั้นเป็นลมทั้งที่ไม่เคยเป็นมาเลย” บุ๋มกล่าวทั้งน้ำตา

เอก กล่าวว่า “เรื่องที่จอดรถเต็มผมไม่ว่าเลย แต่ช่วยพูดกับลูกค้าของผมดีๆ ก็ได้ ทำไมต้องพูดไม่ดีด้วย วันหนึ่งเจอลูกค้ามาบ่นเรื่องนี้ 4-5 คน”

บุ๋ม บอกว่า “หากมานั่งคุยกันตกลงกันมันก็จะไม่มีปัญหาแบบนี้เลย คำตอบอย่างเดียวที่ได้คือการรอเอกสารจากทนายของคุณกึ้งเท่านั้น เพราะเขาเป็นคนร่างสัญญา ถามว่าวันนี้มาถึงจุดแตกหักมั้ย อยู่ที่แอ๊กชั่นของทางนั้น คือจุดหนึ่งเราโดนปล่อยคลิป เขียนส่งข่าวนักข่าวเอง และไม่เข้าใจว่าทำไมต้องให้ข่าวบิดเบือนแบบนั้น”

ผู้สื่อข่าวถามว่าเรื่องจะบานปลายถึงขั้นฟ้องร้องกันเลยไหม บุ๋ม กล่าวว่า “เรื่องการฟ้องร้องนั้นได้ยินมาทางนั้นจะฟ้องร้อง แต่ยังไม่รู้ว่าจะฟ้องร้องอะไร ทั้งที่มาคุยกันสิ คุณมีปัญหาและฉันก็มีปัญหา ทำไมไม่คุยกัน ตั้งแง่อย่างเดียวมันไม่สนุก ถามว่าจะฟ้องร้องเรื่องอะไร เราต้องฟ้องคุณกลับใช่ไหม เราโดนทำลายชื่อเสียง เราโดนปล่อยคลิปตัดต่อคลิป แบบนี้ เราต่างหากที่ต้องฟ้องคุณ ในเรื่องของปัญหาหุ้นส่วนอยากให้ไปสอบถามเจนี่เอาเองว่ามีปัญหาอะไร ถึงแม้เราจะได้ผลกระทบ เพราะเราเคยเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนนะ ที่ผ่านมาเราถอยนะ คุณอยากได้อะไรมาเรายอมหมด สิ่งที่คาดหวังจากวันนี้อย่าใช้คำรุนแรงกับน้องเจนี่ อย่าไปก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวมันไม่เกี่ยวกัน อีกอย่างหนึ่งอยากให้แฟนคลับแต่ละฝ่ายใจเย็นๆ อย่าเขียนอะไรกันไปไกล”

เมื่อถามว่าการที่เขาไม่ส่งสัญญาให้นั้นเป็นการบีบทางอ้อมหรือเปล่า ‘เอก’ กล่าวว่า “ผมไม่ได้คิดว่าเขาบีบนะ แต่เขาอาจจะยุ่ง ไม่เคยคิดว่าเขาเลี่ยงนะ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมนาน 3 เดือนแล้วยังไม่ได้เอกสารสักที สิ่งที่ผมต้องการคือการปรับปรุงการต้อนรับลูกค้า และมีการทำสัญญาออกมา ไม่สองมาตรฐานในการรับรถ เน้นในเรื่องของการรับรถลูกค้าเรา จริงๆ สัญญาไม่ใช่ปัญหา แต่เป็นเพราะเขามาเล่นแบบนี้ว่าเราไม่ได้จ่ายเงินแล้วจะไล่ออก ผมเลยมาชี้แจงว่าเรายังไม่ได้สัญญานะ ทุกวันนี้ผมยังไม่รู้เลยว่าใครมีอำนาจเด็ดขาดในการคุยเรื่องนี้เลย ทุกวันนี้เห็นคุณแม่เจนี่มาจัดการบริหารทุกวัน ส่วนเจนี่นานๆ มาครั้ง สอบถามเจนี่เขาก็ขัดคุณแม่ไม่ได้ พอผมสอบถามคุณแม่ท่านก็ตอบไม่ได้ สอบถามทนายๆ ก็งานยุ่ง คือผมไม่รู้จะทำอย่างไร ขนาดทุกวันนี้เป็นเรื่องเขายังไม่มาคุยเลย ถ้าเขาไม่ชอบเรา ผมบอกตรงๆ ผมยอมย้ายออกให้”

“สำหรับพื้นที่ตรงนี้เป็นของบุคคลภายนอก แต่คนที่มาเจอคนแรกคือท็อป ท็อปมาปรึกษาผมว่าจะเอามั้ย ผมส่งทนายไปช่วยเขาเจรจาครั้งแรก ตอนแรกเจนี่ไม่ได้มารีแอ๊กชั่นเรื่องงานเท่าไหร่ เขาปล่อยให้ผมทำกับท็อป 2 คน พอเช่าเสร็จเจนี่กับท็อปก็มาเกิดปัญหากัน เรามีสัญญาเก่านะ แต่มันเป็นโฆษะไปแล้วเนื่องจากเขาไปเซ็นสัญญาใหม่ เขาไปเซ็นเองแต่เรายังไม่ได้สัญญาใหม่ ถามว่าทำไมไม่ชำระค่าเช่าก็เนื่องจากเรายังไม่ได้สัญญาใหม่ แต่เราจ่ายแล้วค่ามัดจำไปแล้ว ส่วนคลาสเต้นเราไม่ซ้ำกันกับทางเขา”

ผู้สื่อข่าวถามว่าหลังจากนี้จะสนิทใจกับเจนี่และคุณแม่ของเจนี่ไหม ‘บุ๋ม’ กล่าวว่า “บอกตรงๆ ว่าบุ๋มกลัว ไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรต่อ”