เป็นกระแสเสียใหญ่โตสำหรับรายการ ฟุตบอลยูโร 2016 ที่มีประชาชนชาวไทยได้ร่วมเป็นเหยื่อ ทุบกระปุกซื้อไปรษณีย์บัตรเพื่อไทยผลแชมป์ ในครั้งนี้ แค่เดือนเดียวกำไรเกือบ 300 ล้าน ถ้าทั้งปีจัด 12 รายการ ไม่โกยกันเป็นพันล้านเลยเหรอ??? คนไทยต้องคิดให้เร็ว

“บอลยูโร 2016 โป๊ะแตก” ไปรษณีย์ไทย เผลอปากโวยอด 175 ล้านใบ คนไทยทั้งนั้นที่จนลง

หลังจากเมื่อวันที่ 9 ทางกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทไปรษณีย์ไทย ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับทางสื่อว่ามีการปิดรับทายผลฟุตบอลยูโร 2016 โดยยอดไปรษณีย์บัตรที่มีการส่งชิงโชคทั้งสิ้น 175 ล้านใบ ทำลายสถิติถล่มทลาย โดยทางหนังสือพิมพ์ยักษ์เขียว เป็นผู้ออกหน้า รับเป็นตัวกลางในการดำเนินการจัดชิงโชคในครั้งนี้ ซึ่งอีเวนต์นี้ ทุกส่วนรับกำไรไปเต็มๆ เพราะรางวัลที่แจกให้กับผู้ร่วมชิงโชค รวมแค่กว่า 30 ล้านบาท หรือเทียบได้แค่ประมาณ 10% เท่านั้นเอง โดย

  • รางวัลที่ 1 เป็นรางวัลเงินสด 10 ล้านบาท 1 รางวัล
  • รางวัลที่ 2 เป็นรางวัลเงินสด 1 ล้านบาท 10 รางวัล
  • รางวัลที่ 3 เป็นรางวัลเงินสด 1 แสนบาท 100 รางวัล

ซึ่งถ้าหากรวมรางวัลใหญ่ทั้ง 3 ส่วนจะเป็นเงินที่ต้องจ่ายให้กับผู้ร่วมสนุกหรือผู้ชิงโชคเพียงแค่ 30 ล้านบาท ซึ่งทางไปรษณีย์ไทยรับกำไรไปเต็มๆ กว่า 300 ล้านบาทจากค่าไปรษณีย์บัตร งานนี้ถ้าดูเป็นเรื่องมอมเมาประชาชนของภาครัฐ (รัฐวิสาหกิจ) จากการใช้กระแสของกีฬาฟีเวอร์ก็สามารถพูดได้ หรือ คนไทยยังจนอยู่??? ถึงต้องคอยแสวงหาน้ำบ่อหน้า หรือ ต้องเสี่ยงโชค เพื่อสร้างฐานะของตน

การใช้กลยุทธ์จากการแข่งขันกีฬาดังระดับโลก เช่น โอลิมปิก ฟุตบอลโลก หรือแม้กระทั่ง ฟุตบอลยูโรเหมือนเป็นช่องทางให้ผู้ที่จองเอาเปรียบประชาชนใช้เป็นช่องทางในการกอบโกยผลประโยชน์ ซึ่ง ถ้าหากบอกว่า “ตรรกะ ชาเขียวชิงโชค”  = การมอมเมาประชาชน เพราะกำไรเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ ตกไปอยู่ในท้องของใคร งานนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็น ไปรษณีย์ไทย ก็ทำเช่นกัน ที่ได้รับผลประโยชน์ไปเต็มๆ ส่วนจะมาอ้างว่าเป็นค่าโฆษณา ค่าการตลาด แบ่งให้ใครบ้าง ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้มีส่วนร่วมในผลประโยชน์นี้