ดูเหมือนเรื่องราวจะจบไม่สวยซะแล้ว เมื่อชาวเน็ตเกิดสังเกตุเห็นความผิดปกติของการไกล่เกลี่ยจากกรณี เจ้าของรถ Benz ป้ายแดง ทำร้ายสาวท้อง 4 เดือน ที่ได้มีการไกล่เกลี่ยไปเมื่อวันที่ 16 ตุลาคมนั้น

ต่างพากันวิเคราะห์ถึงอาการของ น.ส.มาลิณี วรรักษ์ธนานันท์ หญิงตั้งครรภ์ 4 เดือน ว่าไม่ได้มีการเต็มใจในการไกล่เกลี่ยแต่อย่างใด กลับร้องไห้ด้วยความอึดอัดที่ นอกจากคู่กรณีจะไม่กล่าวขอโทษแล้วยังให้สัมภาษณ์ว่าตนใส่สีตีไข่เรื่องราวให้มันเลวร้ายกว่าความเป็นจริง อีกทั้งคุณ บุ๋ม ปนัดดา วงษ์ผู้ดี คนกลางไกล่เกลี่ยในกรณีดังกล่าวนั้น ชาวเน็ตลงความเห็นว่า คุณบุ๋มคล้ายจะเข้าข้างทางฝั่งนางอริษา ปัญญากิตติวัฒน์ เจ้าของรถ Benzป้ายแดง มากกว่า โดยไม่มีความเป็นกลาง

ล่าสุดวันนี้ 18 ตุลาคม ชาวเน็ตได้รวมตัวนัดแนะกันว่า ในวันอังคารที่ 20 เวลา 9.00 น. จะไปยืน ถือป้ายกดดัน ธนาคารต้นสังกัดที่ นางอริษา ทำงานเป็นผู้จัดการอยู่นั้น เพื่อเร่งบทลงโทษให้เร็วขึ้น โดยยืนยันว่าจะกดดันให้ไล่ออกให้ได้

ภาพจาก เรื่องจริงยิ่งกว่านี้อีก

ทรรศนะ มุมมองจากความเห็นจากผู้สันทัดกรณีด้าน ประกันภัยรถยนต์

จากเหตุที่เกิดขึ้นตั้งแต่กลางเดือนจนเป็นข่าวอื้อฉาวบานปลาย และกลายเป็นกระแสวิจารณ์ในโลกสังคมออนไลน์อย่าง หากท่านลองนึกย้อนดูถึงต้นเหตุของกรณีนี้มาจากแค่ “อุบัติเหตุจากการใช้รถยนต์” ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเหตุทั่วไป และเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยาก ดังจะเห็นได้ว่าตามกฎหมายมีการบังคับทำประกันภัยรถยนต์ทุกคัน ซึ่งจะมากน้อยตามแต่ความประสงค์ของเจ้าของรถแต่ละคัน และในเหตุการนี้ทั้ง 2 ฝ่ายทั้ง รถยนต์คู่กรณี และ รถยนต์ที่ได้รับความเสียหาย ก็คือ รถ Benz ป้ายแดง ทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1  ไว้อยู่แล้วจึงควรให้ บริษัทประกันภัยรถยนต์ ของทั้ง 2 ฝ่ายเป็นผู้ไกล่เกลี่ยประนีประนอม ซึ่งเจ้าของรถยนต์ทั้ง 2 คันจะได้รับการชดเชยอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่มีเหตุอันควรใดๆที่ต้องก่อเหตุทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันจนเกิดเป็นคดีความ เพราะตามปกติประกันภัยรถยนต์ชัั้น 1 นั้นจะมีความคุ้มครองประกันอิสรภาพ หรือ Bail Bond เพื่อใช้ในการประกันตัวในวงเงินที่สูงพอสมควร แต่ในกรณีนี้คดีความอาญาอันเนื่องมาจากการทะเลาะวิวาทนั้นไม่อยู่ในสัญญาความคุ้มครองของกรมธรรม์ ทั้ง 2 ฝ่ายจึงไม่สามารถเรียกร้องใช้สิทธิของประกันภัยในการต่อสู้คดีในครั้งนี้อีกด้วย

ความรู้เพิ่มเติม รู้ให้จริงเรื่อง ประกันภัยรถยนต์