ทนายเกิดผล แก้วเกิด ได้ออกมาแสดงความคิดเห็น ไขคำตอบเรื่อง การครอบครอง ‘บุหรี่ไฟฟ้า’ ผิดกฎหมาย จำคุกสูงสุด 5 ปี ปรับเงิน 4 เท่าของราคาสินค้าบวกค่าอากร

เมื่อวานนี้ 11 ธ.ค. 60 นายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความจาก สำนักกฎหมายเกิดผล แก้วเกิด ได้มีการให้ความรู้เกี่ยวกับความผิดตามข้อกฎหมายกรณีการครอบครอง ‘บุหรี่ไฟฟ้า’ โดยการโพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊กชื่อ ‘เกิดผล แก้วเกิด’ โดยมีเนื้อหาดังนี้

บุหรี่ไฟฟ้า เป็นสินค้าต้องห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร ตามประกาศ ของ กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2557 เมื่อมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว กฎหมายจึงหมายถึงว่า คนไทยทุกคน ตั้งแต่คลอด แล้วอยู่รอดเป็นทารก และสิ้นสุดลงเมื่อตาย ต้องรู้ว่า กฎหมายห้ามนำเข้า

เมื่อกฎหมายห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร จึงต้อง เกี่ยวเนื่องกับกฎหมายศุลกากร ที่บัญญัติว่า มาตรา ๒๔๔ ผู้ใดนำของที่ผ่านหรือกำลังผ่านพิธีการศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักร หรือส่งของดังกล่าวออกไปนอกราชอาณาจักร หรือนำของเข้าเพื่อการผ่านแดนหรือการถ่ายลำโดยหลีกเลี่ยงข้อจำกัดหรือ

#ข้อห้ามอันเกี่ยวกับของนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และศาลอาจสั่งริบของนั้นก็ได้ ไม่ว่าจะมีผู้ถูกลงโทษตามคำพิพากษาหรือไม่ ผู้ใดพยายามกระทำความผิดตามวรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษเช่นเดียวกัน

ส่วนคนที่ สูบ หรือ มีไว้ครอบครองเพื่อสูบ แม้มิใช่คนนำเข้า กฎหมาย ก็บังคับว่า ท่านต้องรู้ว่า ห้ามนำเข้า และการนำเข้าผิดกฎหมาย (แม้ความจริง ท่านจะไม่รู้อะไรเลยก็ตาม)
เมื่อสิ่งผิดกฎหมายอยู่ในการครอบครองของท่าน

กฎหมายจึงบัญญัติว่า …ผู้ใดช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิดตามมาตรา ๒๔๒
แปลว่า #รับไว้โดยประการใดๆซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิดตามมาตรา ๒๔๒ ก็เป็นความผิด

ส่วนจะแก้ตัวว่าไม่รู้ ก็คงฟังไม่ขึ้น เพราะกฎหมายปิดปาก เนื่องจากประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว .. พรบ.ศุลการกร จึงบัญญัติว่า
มาตรา ๒๔๖ ผู้ใดช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิดตามมาตรา ๒๔๒ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับเป็นเงินสี่เท่าของราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้วหรือทั้งจำทั้งปรับ

การกระทำความผิดตามวรรคหนึ่ง หากเป็นการกระทำโดยรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิดตามมาตรา ๒๔๓ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับเป็นเงินตั้งแต่ครึ่งเท่าแต่ไม่เกินสี่เท่าของค่าอากรที่ต้องเสียเพิ่ม หรือทั้งจำทั้งปรับ

#การกระทำความผิดตามวรรคหนึ่ง หากเป็นการกระทำโดยรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิดตามมาตรา ๒๔๔ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ



ทั้งนี้ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึง กรณีการจับกุม นางสาวมนุษยา เยาวรัตน์ อายุ 29 ปี หรือ ‘ฟลุ๊คศรี มณีเด้ง’ เน็ตไอดอลชื่อดัง พร้อมของกลางเป็น ‘บุหรี่ไฟฟ้า’

พฤติการณ์ดังกล่าวถือได้ว่าเป็นความผิดฐานช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่ยังมิได้เสียค่าภาษี หรือของต้องจำกัด หรือของต้องห้าม หรือที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยยังมิได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้องก็ดี

หรือเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากร ข้อกำกัดหรือข้อห้ามอันเกี่ยวแก่ของนั้นก็ดี ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับเป็นเงิน 4 เท่าราคาของ ซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้ว หรือทั้งจำทั้งปรับตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2469

นอกจากนี้ กรณีที่ ฟลุ๊คศรี มณีเด้ง โพสต์ข้อความกล่าวหาให้ตำรวจได้รับความเสียหาย ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีต่อไป พร้อมยืนยันว่าตำรวจกระทำการตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายกำหนด ไม่ได้ทำร้ายร่างกายผู้ต้องหาและไม่ได้ยึดรถแต่อย่างใด



ข้อมูล ภาพ ข่าว : เพจเฟซบุ๊ก เกิดผล แก้วเกิด , MGROnline

ความคิดเห็นจากสมาชิกเฟซบุ๊ก

comments