จากกรณีที่ ชายพิการ ที่ ถูกกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 6 คน ใช้อาวุธมีด และ ก้อนอิฐ เข้ามารุมทำร้ายซึ่งขณะเกิดเหตุมีทั้งหลานผู้ตายยกมือไหว้เพื่อขอชีวิตหรือแม้แต่ตำรวจเข้ามาห้ามปราม กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้ก็ไม่มีความเกรงกลัวแต่อย่างใด ซึ่งล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้ทั้งหมดแล้ว พร้อมกับยื่นยันว่าจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย เนื่องจาก คดีนี้มีลูกตำรวจถึง 4 คน
ล่าสุด เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2559 สมาชิกเฟซบุ๊กชื่อว่า Juthamas Na Songkhla ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก เกียวกับกรณีดังกล่าวโดยเป็นการเล่าเรื่องตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุจนไปถึง พล.ต.ท.ศานิตย์ รับปากที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
“เล่าเรื่องสมเกียรติ ศรีจันทร์ ชายพิการ ขาขวาลีบข้างหนึ่ง แขนขวาคอกที่พยายามทำมาหากินสุจริตให้เหมือนกับคนธรรมดาทั่วไป
มีลูกชาย 2คน วัย 12 และ 9 ปี เลิกกับเมียไปนานหลายแล้วทำงานส่งเสียลูกให้ได้เรียนหนังสือและส่งเสียแม่ซึ่งลูกและแม่อยู่ที่นครปฐม สมเกียรติ ทำงานอยู่ร้านขนมปัง ปังหอม
วันเสาร์ 30 เม.ย. ที่ผ่านมา เกียรติไปเยี่ยมแม่เยี่ยมลูกที่นครปฐม เพราะร้านปิดทำขนมทุกวันเสาร์และเงินเดือนออกเลยเอาเงินไปให้แม่กินข้าวกับแม่ แล้วกลับมานอนที่ร้านในตอนเย็น ทุกๆวันตอนเช้า เวลาตีห้า เกียรติจะเป็นคนส่งเสียงเรียก ทุกคนในร้านให้ตื่นขึ้นทำขนมปัง จนทำแป้งทุกอย่างเสร็จประมาณ8โมงเช้า จึงจะขับรถออกไปส่งขนมปังที่ร้านละแวกที่พัก
เช้าวันที่ 1 พ.ค.ก็เป็นเหมือนเช่นทุกวันก่อนออกไปส่งขนมปัง เฟิร์นและเมธัส หลานสาวและหลานชายที่บริหารร้าน ขนมปังนี้อยู่ ถามน้าเกียรติว่า…วันนี้เราหุงข้าวกินกันมั้ย น้าเกียรติดีใจ บอกว่าเอาสิมีปลาทอดหมูทอดที่ยายให้มาเมื่อวานนี้อยู่เดี๋ยวน้าส่งขนมปังเสร็จ จะซื้ออะไรมาเพิ่มแล้วเกียรติก็ขับรถออกจากร้านไป
เกียรติกลับมาในอีกพักใหญ่ไม่ได้ซื้ออาหารติดมือมา แต่มาบอกในร้านว่าเมื่อกี้มีปากเสียงกับกลุ่มวัยรุ่น มันแซวตอนจะไปส่งขนมปัง กลุ่มวัยรุ่นผ่านมาที่หน้าร้านตะโกนแซวเรื่องขนมปังและชื่อร้านแล้วเมื่อเขาไปส่งที่ร้านหนึ่ง พอขับรถออกมาก็เจอกลุ่มวัยรุ่นพวกเดิมขี่จักรยานยนต์แซงไปพร้อมกับแซวเรื่องความพิการของเขาอีก เขาเลยขี่มอเตอร์ไซค์ตามไปปาดแซงถามว่าด่าว่าอะไร มีการโต้ตอบกันด้วยคำพูดหลายคำสั่งสอนไปว่าพูดจาให้ดีๆ แล้วก็ขับรถตรงกลับมาที่ร้าน (ตรงนี้ขออนุญาตแก้ไข เมื่อวานเขียนว่าขับรถปาดแซงรถเก๋ง เราเข้าใจผิดเอง เป็นรถมอเตอร์ไซค์ด้วยกันค่ะ)
เมธัสเล่าว่า เกียรติบอกว่าคงไม่มีไรหรอก คุยกันจบแล้ว แต่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงจากนั้น มีวัยรุ่น 4 คนเข้ามาในร้านมาเคลียร์ และเรียกร้องให้เกียรติขอโทษพวกเขา มีปากเสียงเถียงกัน เกียรติก็ขอโทษ ทุกคนช่วยกันบอกให้เด็กวัยรุ่นกลุ่มนั้นใจเย็นๆ ในช่วงนั้นเมธัสโทร.บอกพ่อ เฟิร์นโทร.บอกแม่ซึ่งไม่ได้อยู่ที่ร้านให้มาช่วย โทร.แจ้งตำรวจด้วยเพราะเกรงจะมีเรื่องใหญ่ หนึ่งในกลุ่มประกาศว่า โทร.เรียกมาเลย พ่อกูนี่แหละเป็นตำรวจ
แต่คุยกันสักพัก เด็กกลุ่มนั้นก็ใจเย็นลงและเดินออกจากร้านไป ซึ่งคิดว่าเรื่องน่าจะจบตอนนั้นแล้ว มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งอาจจะไม่ยอมจบเพราะทราบภายหลังว่ามีการโทร.เรียกเพื่อนมาสมทบ รวมแล้วทั้งหมด 8คน ชาย6หญิง2 มาอยู่ที่หน้าร้าน ตะโกนเรียกให้ออกมาเคลียร์ หลังจากนั้นก็ชุลมุนกัน เกียรติใช้มีดที่เอาไว้เขี่ยขนมปังในเตาอบ ป้องกันตัว หนีพลางถอยพลางอยู่บนถนนหน้าร้าน โดยมีเมธัสพยายามขวางยกมือไหว้ขอร้อง อย่าทำน้าผม ๆๆ ซึ่งตอนนั้นเกียรติมีแผลถูกฟันหลายแผลแล้วแต่หนึ่งในนั้นลงมือแทงเข้าที่ลำคอของเกียรติผ่านหน้าเมธัสไป
ผู้เห็นเหตุการณ์แถวนั้นบอกว่าได้ยินเสียงตะโกน เอามันให้ตาย ของผู้หญิงอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย ขณะเกิดเหตุมีคนเห็นเยอะแต่ไม่มีใครกล้าเข้าระงับเหตุ มีแต่ถ่ายคลิปไว้จนตำรวจหลายนายมาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งยังไม่สามารถระงับเหตุได้ทันท่วงทีตำรวจต้องยิงปืนขึ้นฟ้าหนึ่งนัด จึงยุติ(ตามคลิป)เราคิดว่าเกียรติคงจากไปตั้งแต่ตรงนั้นในอ้อมกอดของเมธัส แต่หลานก็ยังพยายามเอาน้าไปส่งโรงพยาบาลเปาโล เกียรติจึงได้ชื่อว่าไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล เราไปถึงโรงพยาบาลและได้รับการยืนยันแล้วว่าเกียรติไม่รอด จึงตามไปหาเมธัสที่สน.โชคชัย
เมธัสอยู่ในห้องประชุมกับ ท่านผู้กำกับ ชัยรพ จุณณวัตร์ ได้รับทราบว่า จับผู้ต้องหามาทั้งหมด 8 คนบรรยากาศบนโรงพักขณะนั้นดูคุกรุ่นพอสมควรในความรู้สึกของคนที่ไม่คุ้นเคยอย่างเราเรากอดเมธัสซึ่งเสื้อผ้ามีเลือดน้าเกียรติเลอะท่วมตัว ได้รับการยืนยันจากหลานมาก่อนหน้าแล้วว่า เขาไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆเมธัสตัวสั่น เอาหน้าซบอกเราแล้วบอกว่าผมขอโทษครับอา ผมช่วยน้าเกียรติไว้ไม่ได้สงสารหลานมาก เพราะเราเลี้ยงเขามาเขาไม่เคยพบเจอเหตุการณ์แบบนี้สักครั้งในชีวิต บอกตรงๆว่า ยิ่งได้รับข้อมูลว่าหนึ่งในผู้ต้องหาเป็นลูกหลานตำรวจ เรายิ่งใจไม่ดีหลานเราจะปลอดภัยมั้ย คนพิการขาเป๋คนหนึ่งที่ตายไป คงตายไปอย่างเงียบๆ ไม่มีปากมีเสียง เราเลยโทรศัพท์ไปเล่าเรื่องราวนี้ให้ผู้ใหญ่ในกรมตำรวจฟัง พร้อมกับเพื่อนฝูงก็ฝากฝังสายสัมพันธ์ของเขาที่เป็นตำรวจให้ด้วย
เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับคนตาย
จนนำมาสู่การแถลงข่าวของ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผบช.น.ที่ สน.โชคชัย4 ที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
และก็ได้รับทราบจากปากท่านเองว่า คดีนี้มีลูกตำรวจเป็นผู้ต้องหาถึง4คน ขอบคุณเพื่อนๆที่วิ่งเต้นฝากคดีนี้ให้ได้รับความเป็นธรรม ขอบคุณเจ้าของคลิปและผู้เผยแพร่ให้สังคมได้ติดตามสถานการณ์ ตำรวจถามเช่นกันว่าใครเป็นคนปล่อยคลิป ซึ่งทางเราก็ได้แต่ตอบว่าคงเป็นพลเมืองดี เพราะมีคนถ่ายไว้ได้หลายคน (น่าจะมีอีก) ขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้แก่ครอบครัวเรา และขอบคุณเพื่อนพ้องใจดีที่ขอโอนเงินมาช่วยครอบครัวผู้ตาย ขอบคุณอย่างยิ่ง กับคุณวรรณภา และ พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน เพื่อนที่ เป็นทุกข์ร้อนห่วงใยกับเหตุการณ์นี้และพร้อมช่วยเหลือทันทีที่ร้องขอ
ปล.ไม่ได้คิดจะกล่าวโทษ ใส่ร้าย หรือกระเหี้ยนกระหือรือให้ใครตายตกไปตามกัน แค่เรียกร้องความยุติธรรมให้คนตาย และบอกกล่าวในมุมของญาติผู้ตายเท่านั้นพยายามเรียบเรียงให้เบาที่สุดแล้ว
#กรรมนั้นทุกคนมีเป็นของตน? ?#?ใช้ชีวิตอย่างมีสติกันนะคะ”