เมื่อวานนี้ 24 มิถุนายน 60 ช่วงเวลา เวลา 11.30 น. นางสาว เบญจภรณ์ วารีศรี อายุ 25 ปี ชาวบ้านตำบลรังกาใหญ่ อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ที่กำลังเข้าพิธีวิวาห์เป็นเจ้าสาวในวันเดียวกันนี้ เข้าแจ้งลงบันทึกประจำวันกับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรพิมายว่า ถูกนายอดิเรก ชะดาจันทร์ อายุ 24 ปี เจ้าบ่าวชาวจังหวัดพิจิตรหอบเงินสินสอดหนีไป

ญาติฝ่ายหญิงเล่าว่า เจ้าสาวทำงานที่กรุงเทพมหานคร เป็นพนักงานของบริษัทแห่งหนึ่ง คบหาดูใจกับเจ้าบ่าวมาระยะหนึ่ง จากนั้นตกลงแต่งงานกัน ซึ่งผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายรับรู้ โดยทางฝ่ายหญิงเรียกค่าสินสอดทองหมั้นเป็นเงิน 1 แสนบาทกับทองคำหนัก 1 บาท ซึ่งฝ่ายชายก็ตกลงตามนั้น

ซึ่งมีกำหนดจัดงานแต่งงานขึ้นที่ จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นบ้านของเจ้าสาว ในวันนี้เสาร์ที่ 24 มิ.ย. 2560 โดยทางเจ้าสาวได้แจกการ์ดเชิญให้กับแขกประมาณ100 ใบ และจ้างโต๊ะจีนกว่า 50 โต๊ะ โดยลงทุนจัดงานเป็นเงินนับแสนบาท

เมื่อพิธีเริ่ม ทั้งการแห่ขันหมาก และกั้นประตูเงิน ประตูทอง ซึ่งเรื่องมาเกิดขึ้นช่วงนับเงินสินสอดพบว่าในขันหมากมีเงินสดเพียง 5 หมื่นบาท และทองคำหนัก 1 บาทซึ่งเงินสินสอดขาดไป 5 หมื่นบาท ผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่ายจึงตกลงกันว่าให้เจ้าบ่าวนำมาเพิ่มให้ทีหลัง แต่ญาติฝ่ายเจ้าบ่าวยืนยันว่าให้ได้แค่ 5 หมื่น และทอง 1 บาท

ทางญาติฝ่ายเจ้าสาวจึงไม่พอใจว่าทำไมฝ่ายเจ้าบ่าวถึงพูดแบบนี้ จึงให้ทางญาติฝ่ายเจ้าบ่าวไปพูดคุยตกลงกันที่บริเวณหน้าบ้านก่อน ซึ่งพอทางญาติฝ่ายเจ้าบ่าวออกไปนั่งคุยกันสักพัก ก็ได้พากันเดินขึ้นรถขับกลับออกจากงานไป พร้อมกับนำเงินสินสอดทั้งหมดกลับไปด้วย

ฝ่ายหญิงจึงเข้าแจ้งความให้ช่วยติดตามตัวเจ้าบ่าวมารับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเรียกฝ่ายเจ้าบ่าวมาพูดคุยตกลงกันกับฝ่ายเจ้าสาวถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการจัดงานแต่งงาน

และล่าสุดในวันนี้ 25 มิถุนายน 60 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พิมาย ยังไม่ได้รับการติดต่อจากทั้งฝ่ายเจ้าสาวและฝ่ายเจ้าบ่าวว่าสามารถตกลงกันได้อย่างไรหรือไม่ ทั้งนี้คดีดังกล่าวตำรวจได้ลงบันทึกประจำวันไว้แล้วและถือเป็นคดีแพ่งทั้งสองฝ่ายสามารถตกลงยอมความกันได้

สนับสนุนภาพข่าว : MGR Online , Bangkokbiznews

ความคิดเห็นจากสมาชิกเฟซบุ๊ก

comments