บนโลกออนไลน์มีการแชร์ภาพเด็กผู้หญิงวัยประมาณ 1 ขวบ อยู่ในห้องขัง โดยมีข้อความระบุว่าตำรวจได้บุกเข้าจับร้านขายของชำด้วยข้อหา จำหน่ายสุราเกินเวลา โดยผู้โพสข้อความคาดว่าน่าจะเป็นเพื่อนของผู้ต้องหาโดยรู้สึกว่าเจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุจึงนำมาโพสลงบนโลกออนไลน์
““…ทำเกินไปไหมคะคุณตำรวจของประชาชน เพื่อนแพรชื่อนุ่นเปิดร้านขายของชำอาศัยอยู่กับแม่และลูกวัย 1 ขวบกว่า พ่อของลูกได้ทิ้งไปตั้งแต่ท้องได้เดือนกว่า สาเหตุที่โดนจับเนื่องจาก จำหน่ายสุราเกินเวลา ตรงนี้พอเข้าใจค่ะ เขาไม่มีเงินจ่ายค่าปรับกระเตงลูกน้อยมา เก้าอี้ด้านนอกก็นั่งได้ไม่ใช่หรอ? เข้าใจว่าบ้านเมืองมีกฎหมายค่ะ แต่รับไม่ได้มากค่ะ ในขณะที่แม่ของนุ่นเป็นลมเนื่องจากตกใจ คุณตำรวจก็จรรยาบรรณน้อยมากเอานุ่นและลูกสาววัย 1 ขวบกว่าขึ้นรถไปโรงพักตอนตี 1 ทิ้งแม่ของนุ่นนอนเป็นลมอยู่บ้าน

ที่บ้านคุณตำรวจมีลูกหลานไหมคะ ยังมีความเป็นคนอยู่ไหม เพื่อนหนูไม่ได้ค้ายาบ้าฆ่าคนตายปล้นชิงทรัพย์นะคะ ขายสุราเกินเวลาได้ของกลาง 1 ขวด มันรุนแรงถึงขนาดต้องให้เด็กตาดำ ๆ กับแม่ต้องนอนในห้องขังหรอขนาดนั้นเลยหรือ ค่าปรับนุ่นตั้งใจจะจ่ายอยู่แล้ว แต่ตอนนั้นมีเงินติดตัวอยู่ 20 บาท คือยังไม่ได้ขายของเลย ทำไมไม่ให้เวลาบ้าง อย่างน้อย ๆ ให้เวลานุ่นกับลูกได้โทรยืมตังค์บ้างก็ยังดีค่ะ จับยัดคุกเกินไปค่ะ เขาไม่ใช่ผู้ก่อการร้ายข้ามชาตินะคะ ตักเตือนก่อนหรือให้นั่งรอคนประกันก็ได้ ไม่เข้าใจค่ะว่าทำไมเด็กต้องได้นอนในห้องขังขนาดนั้น ตำรวจด้วยกันยังรับไม่ได้กับพฤติกรรมของตำรวจด้วยกันเลยค่ะ…”

หลังจากเรื่องราวนี้ถูกแชร์ออกไปบนโลกออนไลน์ ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันมากมาย ทั้งเห็นใจแม่และสงสารลูก บางคนก็บอกตำรวจเขาทำตามหน้าที่ อย่างไรก็ตามเจ้าของโพสต์ก็ออกมาโพสข้อความว่า ” “ตอนนี้ตำรวจได้โทรมาขอโทษแล้วค่ะ ตำรวจดีๆ ยังมีอีกเยอะนะคะ แพรไม่ได้เหมารวมนะคะ กราบขอบพระคุณทุกท่านที่เมตตาเพื่อนแพรกับลูกด้วยค่ะ สำหรับตำรวจที่ดีคอยช่วยเหลือกราบขอบพระคุณมากค่ะ”

ต่อมาพ.ต.อ.นพดล ใบเรือ ผกก.สภ.สันทราย ชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ผู้ต้องหารายนี้เปิดร้านขายของชำหน้ามหาวิทยาลัยแม่โจ้ พบว่าลักลอบจำหน่ายสุราให้กับกลุ่มวัยรุ่นและนักศึกษาเกินเวลาเป็นประจำ ที่ผ่านมาตำรวจเข้าไปว่ากล่าวตักเตือนหลายครั้ง แต่ก็ยังแอบเปิดประตูหลังร้านขายในตอนดึก และก่อนหน้านี้เคยถูกจับมาแล้วครั้งหนึ่ง

คืนเกิดเหตุเวลา 01.00 น. ก็พบว่ามีการจำหน่ายสุราให้กับลูกค้า ตำรวจจึงเข้าจับกุมพร้อมของกลางเป็นสุรา 1 ขวด แต่พอถูกจับกุมหญิงสาวรายนี้ได้พาลูกน้อยที่กำลังนอนหลับไปโรงพักด้วย ทั้งที่ที่ร้านก็มีแม่ของผู้ต้องหาอยู่ด้วย แต่ก็ไม่ฝากเด็กไว้ แสดงชัดว่าหญิงสาวรายนี้ตั้งใจพาลูกไปโรงพัก

เมื่อไปถึงพนักงานสอบสวนได้ฝากผู้ต้องหาไว้กับสิบเวร เพื่อออกไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พอกลับมาก็พบว่าผู้ต้องหาพาลูกเข้าไปอยู่ในห้องขังแล้ว โดยสิบเวรบอกว่าผู้ต้องหาพาลูกน้อยเดินเข้าไปในห้องขังเอง จึงสั่งให้นำตัวผู้ต้องหาและลูกออกมาทันที โดยระหว่างอยู่ในห้องควบคุม ผู้ต้องหาถ่ายภาพและส่งให้เพื่อนโพสต์ลงโลกออนไลน์เหมือนกับจงใจ

ขณะที่การกล่าวอ้างว่าแม่ของผู้ต้องหาป่วยเป็นอัมพาต ก็ไม่เป็นความจริง และตำรวจก็ไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุ แต่ที่ต้องจับกุมไปโรงพักเพราะต้องดำเนินการตามกฎหมาย และที่ผ่านมาก็ได้มีการตักเตือนหลายครั้งแล้ว สำหรับเรื่องที่เกิดขึนได้มีการชี้แจงกับผู้ต้องหาแล้ว และทางตำรวจก็ได้กล่าวขอโทษ หากทำให้ผู้ต้องหาไม่สบายใจ ซึ่งทุกอย่างก็จบลงด้วยดี

ด้าน น.ส.นุ่น ผู้ต้องหารายนี้ เปิดเผยว่า คืนดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกให้เข้าไปอยู่ในห้องควบคุม ไม่ได้เดินเข้าไปเอง เมื่อเข้าไปตำรวจก็ล็อคห้องให้อยู่ภายในเหมือนผู้ต้องหาทั่วไป ส่วนที่ถ่ายภาพโพสต์ในสังคมออนไลน์ ก็เพราะต้องการขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ เนื่องจากมีเงินไม่พอประกันตัว โทรศัพท์ก็โทรออกไม่ได้เพราะไม่ได้เติมเงิน ไม่มีเจตนาเป็นอย่างอื่น

อย่างไรก็ตาม ก็ต้องขอบคุณตำรวจนายหนึ่งที่ยื่นมือมาช่วยเหลือ ออกเงินค่าประกันตัวให้ 2,500 บาท จากที่ต้องจ่าย 5,000 ทั้งที่ไม่รู้จักกันมาก่อน ทำให้ได้ออกห้องขัง

ขณะที่ พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า จากการสอบถามเบื้องต้น พบว่าแม่เด็กร้องขอเอาเด็กเข้าไปอยู่ในห้องควบคุมด้วย โดยอ้างว่าไม่มีใครดูแล

ทั้งนี้ได้มีคำสั่งให้ตั้งกรรมการสอบสวนสิบเวร ว่านำคนที่ไม่ใช่ผู้ต้องหาเข้าไปในห้องขังได้อย่างไร ส่วนบางคนที่โพสตำหนิ ต่อว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ขอให้ฟังข่าวสารทั้ง 2 ฝ่าย เพราะถ้าฟังฝ่ายเดียวอาจเข้าใจผิดได้