จากกรณีคดีสะเทือนขวัญของ น้องสโนว์ นักเรียนหญิงชั้น ม.6 อายุ 18 ปี ของโรงเรียนร่องคำ อำเภอร่องคำ จังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ถูกคนร้ายถีบรถจักรยานยนต์ เพื่อหวังจะข่มขืนแต่ น้องสโนว์ ต่อสู้ขัดขืนทำให้ถูกคนร้ายทำร้ายร่ายกายจนเสียชีวิต โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 ธันวาึคม 2559 ที่ผ่านมา ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมหลักฐานและสามารถจับคนร้ายได้เรียบร้อยแล้วโดยคนร้ายเป็นถึงใหญ่บ้านสีถาน หมู่ที่ 15 ตำบลดงลิง อำเภอกมลาไสย

และดูเหมือนคดีจะยังไม่จบเมื่อ ภรรยา ของผู้ใหญ่บ้านได้ทำการโพสต์ต่อว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยอ้างว่าให้ความร่วมมือทุกอย่างเพราะความบริสุทธิ์ใจแต่ก็ยังโดนจับ พร้อมกับยืนยันว่าสามีตนเองเป็นแพะรับบาปในคดีนี้ ทำให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ออกหมายเรียก เมียผู้ใหญ่บ้านสีถาน ผู้ต้องหาคดีฆ่า น้องสโนว์ สอบข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ พร้อมกับส่งสายสืบลากคอมือมืดโทรขู่ฆ่าตร.ยกทีม ขณะที่ผู้การฯ สั่งเพิ่มความปลอดภัยให้กับพยานและครอบครัวพลประสิทธิ์ ส่วนญาติผู้ต้องหาเตรียมเงินหลายสิบล้านต่อสู้คดี

โดยมีหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ทั้งร่องรอยบาดแผลถูกกัดที่นิ้วมือ ซึ่งแพทย์ระบุชัดว่าเป็นรอยฟันคน ไม่ใช่รอยหนูกัดตามที่เจ้าตัวอ้าง และรอยสีที่ติดอยู่ที่รถจยย. เป็นต้น ซึ่งตำรวจต้องใช้เวลาถึง 102 วัน ก่อนบุกเข้าจับกุมตัวได้ เมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยเจ้าตัวให้การปฏิเสธ ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปฝากขัง พร้อมคัดค้านประกันตัว ล่าสุดเจ้าตัวยังถูกควบคุมอยู่ที่เรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ และอยู่ในระหว่างฝากขังผัดที่ 2 ขณะมีโทรศัพท์ลึกลับขู่ฆ่าพนักงานสอบสวนยกทีม

วันที่ 21 เม.ย. ที่สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เรียกตำรวจชุดสืบสวนและพนักงานสอบสวน ประกอบด้วย พ.ต.อ.วิเชียร พินดวง รองผู้บังคับการฯ พ.ต.อ.มนตรี จรัลพงษ์ รองผู้บังคับการฯ พ.ต.อ.ทิณรัตน์ เพ็ชรพันธ์ศรี รองผู้บังคับการฯ พ.ต.อ.วันชัย รณชาติชัย ผกก.สภ.กมลาไสย และ พ.ต.ท.ประพนธ์ ภูจอมนิล พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดี และ พ.ต.ท.ลังสันต์ ประคำ พนักงานสอบ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เข้าปรึกษาเพื่อเพิ่มความระมัดระวังในการทำคดี โดยเฉพาะความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งร่วมทำคดีทุกนาย

และยังได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนเชิญตัว น.ส.ทัศนีย์ ค้าสุกร อายุ 28 ปี ภรรยา นายกฤติเดช ระเวงวรรณ ผู้ใหญ่บ้านสีถาน มารับทราบข้อกล่าวหาเกี่ยวกับความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ

พล.ต.ต.อภิชิต กล่าวว่า การรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อส่งต่อให้อัยการจังหวัดกาฬสินธุ์ ยื่นฟ้องต่อศาลเข้มงวดขึ้นทุกขณะ และคาดว่า ภายหลังจากทีมสอบสวนนำสำนวนให้ พล.ต.ต.ขจรศักดิ์ ปานสาคร รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ตรวจสำนวน และหากสำนวนเรียบร้อย จะสามารถส่งอัยการได้ในต้นเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งแน่นอนว่าในด้านของผู้ต้องหา ไม่ว่าจะเป็นญาติหรือบุคคลลึกลับที่ไม่หวังดี ซึ่งได้โทรศัพท์มาข่มขู่พนักงานสอบสวนนั้น คงต้องดิ้นรนทำทุกวิถีทาง เพื่อขอประกันตัว ซึ่งตำรวจก็ยังคงยืนค้านประกัน เพราะเป็นคดีสะเทือนขวัญและผู้ต้องหาเป็นผู้มีอิทธิพล

“สำหรับโทรศัพท์ลึกลับนั้น ไม่ทำให้ตำรวจกลัวเกรง แต่ต้องเพิ่มความระมัดระวังตัว ซึ่งในขณะนี้ ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.มนตรี จรัลพงศ์ รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ติดตามผลในคดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ที่มี พ.ต.ท.ลังสันต์ ได้รับแจ้งความร้องทุกข์ จาก พ.ต.ท.ประพนธ์ ภูจอมนิล พนักงานสอบสวน สภ.กมลาไสย (พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดีน้องสโนว์) แจ้งความร้องทุกข์ น.ส.ทัศนีย์ ค้าสุกร อายุ 28 ปี อยู่หมู่ที่ 5 ต.บ้านชัย อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ภรรยา นายกฤติเดช ระเวงวรรณ ผู้ใหญ่บ้านสีถาน ผู้ต้องหา ในข้อหา ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ โดยให้เชิญตัวมารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว” พล.ต.ต.อภิชิตกล่าว

ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในส่วนความปลอดภัยของ ครอบครัวพลประสิทธิ์ และญาติรวมถึงพยานนั้น ได้ให้ตำรวจสายตรวจจาก สภ.กมลาไสย และ สภ.ร่องคำ หมุนเวียนกันเข้าไปดูแล โดยในขณะนี้ตำรวจได้นำตู้แดงไปติดตั้งไว้ที่บ้านของพ่อแม่น้องสโนว์ ซึ่งการดูแลนั้น จะทำไปจนกว่า ครอบครัวนี้ รู้สึกว่าตนเองได้รับความปลอดภัย ส่วนมือมืดที่โทรศัพท์ข่มขู่พนักงานสอบสวนนั้น ได้ส่งสายสืบติดตามแล้ว แต่เนื่องจากเป็นการใช้โทรศัพท์สาธารณะ ก็จะต้องตามตัวมาดำเนินคดีให้ได้ และตำรวจกาฬสินธุ์ยืนยันว่าจะทำทุกวิถีทางให้สังคมดีขึ้น

ส่วนความเคลื่อนไหวในเครือญาติของ ผู้ใหญ่บ้านสีถาน แหล่งข่าวแจ้งว่า ขณะนี้ได้มีการเตรียมเงินหลายสิบล้านบาท เพื่อขอประกันตัวในชั้นศาล และยังเตรียมการตั้งทนาย เพื่อต่อสู้คดี โดยเฉพาะในขั้นตอนของอัยการที่จะนำคดีขึ้นสู่ศาล ซึ่งประชาชนและคนในสังคมยังให้ความสนใจ เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวในคดีนี้อย่างต่อเนื่อง