เหยื่ออารมณ์!! ครูปาแก้วกาแฟใส่หน้าเด็ก หน้าเบี้ยว ปากเบี้ยว ตาปิดไม่สนิท เสียโฉม จนเป็นเรื่องต้องแจ้งความท่าจะไม่จบง่ายๆ ผอ.โรงเรียนมัธยมชื่อดัง “โชคชัยสามัคคี” ในโคราช แจงเข้าข้างครูพละที่ปาแก้วกาแฟใส่เด็ก จนปากเบี้ยว
ตามที่นาย นิพนธ์ ภักดีแก้ว ผู้อำนวยการโรงเรียนโชคชัยสามัคคี (ชส.) โรงเรียนมัธยมขนาดใหญ่พิเศษใน จ.นครราชสีมา ได้มีการแถลงชี้แจงข้อเท็จจริงที่ นร.นางสาวนฤดี (สงวนนามสกุล) ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพในเฟซบุ๊กระบุว่า ถูกนายไพฑูรย์ แกลงกระโทก ที่เป็นครูพละของโรงเรียนปาแก้วกาแฟใส่หน้า จนทำให้กล้ามเนื้อบวมทับเส้นประสาท ใบหน้าผิดรูป ปากเบี้ยว เนื่องจากไม่พอใจที่ตนและเพื่อน ขัดคำสั่ง เหตุเกิดเมื่อวันที่8สิงหาคม โดยอ้างว่าข้อความในเฟซบุ๊กไม่ไช่เรื่องจริงและคลาดเคลื่อน ทั้งๆที่เด็กผู้เสียหายเป็นคนลงข้อความเอง แถมยังอ้างว่าครูพละปาแก้วที่ฝาผนังผนังห้อง แต่แก้วกระเด็นกระดอนมาถูกใบหน้าลูกศิษย์เอง ไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งทางโรงเรียนจัดรถนำส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลในวันรุ่งขึ้น โดยทางผู้เสียหายต้องใช้เงินผ่าตัด 3-4แสนบาท แต่ครูพละคนดังกล่าวกลับแจ้งว่าจ่ายให้ได้ไม่เกิน 1 แสนบาท จึงตกลงกันไม่ได้ จึงอยากให้สื่อเข้าใจ
ส่วนข้อความส่วนหนึ่งที่เป็นข่าวที่น้องนักเรียนได้โพสต์ลงเฟซบุ๊ก ทางเว็บไทยแร็ดส์ได้คัดลอกมาจากเพจ “คนเลวต้องไม่มีที่ยืน” มีดังนี้
สวัสดีค่ะหนูชื่อ น.ส. นฤดี จอดสันเทียะ เรียนอยู่ชั้น ม.5 อายุ 17 ปี หนูโดนครูประจำวิชาที่สอนปาเเก้วกาแฟใส่โดนช่วงบริเวณกกหูซ้ายทำให้กล้ามเนื้อบวมทับเส้นประสาทคู่ที่7 ทำให้ปากเบี้ยวและใบหน้าผิดรูป เวลายิ้มรึพูดตาซ้ายหลับไม่สนิทหลับได้เเค่ครึ่งตาคือใบหน้าด้านซ้ายขยับไม่ได้เลย เหตุเกิดตั้งเเต่วันที่ 8 ส.ค. 59 จนถึงวันนี้ครูคนที่ทำไม่เคยโทรมาถามข่าวเลยค่ะ หลายคนคงสงสัยว่าทำไมครูถึงปาเเก้วกาแฟมาใส่ คือเรื่องมีอยู่ว่าวันที่ 8 ส.ค. 59 หนูเรียนวิชาพละครูให้พวกหนูเเละเพื่อนๆนั่งรอจับฉลากอยู่หน้าห้องหมวดพละเเละบริเวณที่หนูนั่งอยูเเดดส่องมาถูกบริเวณช่วงที่หนูนั่งรอ พอครูเข้าไปทำฉลาก เวลาประมาณ 09.00 เเดดร้อนมากหนูกับเพื่อนๆอีก 6-7 คนก็เลยลุกขึ้นยืนเพื่อที่จะหลบเเดด ( เเค่ยืนค่ะไม่ได้ลุกเดินไปไหน ) ครูคงมองมาเห็นว่าขัดคำสั่งก็เลยเอาเเก้วกาเเฟที่ใส่ฉลากปามาเเบบว่าโดนใครก็ชั่งมันเเต่มันโดนหนูค่ะเเล้วครูก็ด่าต่อค่ะว่า #มึงจะยืนกันทำห่าอะไร กูสั่งให้พวกมึงนั่งไม่ใช่หรอ กูสอนพวกมึงนานรึไง กูกะจะปาให้หัวมึงเเตกเลยนะนั้น เเล้วหนูกับเพื่อนๆก็นั่งลงเเล้วก็เรียนตามปกติหนูก็เจ็บ เเต่คิดว่าคงไม่เป็นอะไรมากก็เลยไม่ได้บอกใครก็บอกเเค่เพื่อนที่สนิทกัน 4-5 คนเเต่พอเช้าของวันที่ 9 ส.ค. 59 หนูถึงรู้ว่าหน้าหนูมันผิดปกติผิดรูปไป หนูก็เลยบอกเเม่เเล้วเเม่ก็พาไปหาหมอที่ รพ.ประจำอำเภอหนองบุณมาก หมอประจำอำเภอหนองบุญมาก ไม่เเน่ใจว่ากล้ามเนื้อเเค่บวมทับเส้นประสาท หรือว่ากระดูกเเตกทับเส้นประสาทกันเเน่หมอประจำอำเภอหนองบุญมากก็เลยส่งตัวหนูไปที่ รพ.มหาราชหมอที่ รพ.มหาราชบอกว่าไม่มียารักษาต้องให้ร่างกายรักษาตัวเองต้องใช้เวลา 6 เดือนเเล้วหมอที่และตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นมาเป็นระยะเวลา 1 เดือน แล้ว อาการก็ไม่ดีขึ้นเลย ซึ่งหนูได้ไปรักษาตัวที่ รพ.เซนต์เมรี่ นครราชสีมา หมอได้ดูรายละเอียดเกี่ยวกับการตรวจระบบเส้นประสาท หมอบอกว่าเส้นประสาทตา เริ่มเสื่อมสภาพลง อาการไม่ดีขึ้นเลย ทั้งที่จริงแล้ว ระยะเวลา 1 เดือนนี้ อาการน่าจะดีขึ้น เส้นประสาทบางส่วนน่าจะฟื้นตัวได้มากกว่านี้ ซึ่งถ้าหากว่าในช่วงนี้จนถึง 3 เดือนนี้ไม่มีอะไรดีขึ้นก็อาจจะต้องผ่าตัดซึ่งค่าผ่าตัดก็อยู่ที่ประมาณ 3-4 เเสนก่อนหน้านี้ทางโรงเรียนจ่ายค่ารักษาพยาบาลเบื่องต้นให้ค่ะเเต่พอรู้ว่าอาจจะต้องผ่าตัดเเละค่าผ่าตัด ทางครอบครัวหนูก็เลยไปคุยกับครูเเละทางเขาจะไม่จ่ายค่ารักษาพยาบาลให้หนูเเล้วเค้าเสนอว่าจะให้ 8 หมื่นบาทเเล้วไปรักษากันเอาเองซึ้งมันก็ไม่พอกับค่ารักษาค่าผ่าตัดอยู่เเล้วหนูเเละครอบครัวไม่รับทางโรงเรียนและครู เลยบอกว่าถ้าอยากได้มากกว่านี้ก็ไปฟ้องเอง หนูก็เลยอยากจะให้คนโคราชช่วยเเชร์ให้หนูได้รับความยุติธรรมด้วยค่ะ