หว่ามก๋อ กระทบหนัก พัทยาน้ำท่วม บ้านเรือน รถยนต์ เสียหายยับ

น้ำท่วมพัทยา แทบทั้งเมืองจมบาดาลจากฤทธิ์ของพายุ หว่ามก๋อ กระแสน้ำไหลแรงพัดสิ่งของ รถยนต์ สิ่งของเครื่องใช้ เสียหายเป็นจำนวนมาก ประชาชนจำใจแบกรับภาระค่าใช้จ่ายไม่คาดคิด

ในช่วงกลางคืนวันที่ 15 จนถึงช่วงกลางวันของวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมาได้เกิดฝนตกหนักจากอิทธิพลของพายุดีเปรสชั่น หว่ามก๋อ ซึ่งทำมีน้ำฝนจำนวนมาก และมีลมพายุ กระแสน้ำ รุนแรง ทางภาคอิสานและภาคตะวันออกของไทย ทั้งชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ล้าวนได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของพายุ หว่ามก๋อ และทำให้เมืองท่องเที่ยวชื่อดังอันดับโลกอย่าง พัทยา ต้องจมอยู่ใต้กระแสน้ำ ส่งผลให้ถนนเศรษฐกิจหลายสายในพื้นที่พัทยามีน้ำท่วมสูงจนจนรถเล็กไม่สามารถสามรถผ่าน พบว่ามีทรัพย์สินสิ่งของ รถยนต์ จมน้ำได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก โดยเมื่อคืนวันที่ 16 กันยายนมีฝนตกทั่วบริเวณ พัทยาใต้ พัทยาเหนือ จนกระทั่งถนนหลายสายน้ำท่วมและเริ่มใช้การไม่ได้ มีประชาชนจิตอาสาคอยยืนบอกทางบ้าง แนะนำเส้นทางหลบเลี่ยงน้ำ โดยเฉพาะถนนสายตลาดโพธิ์

โดยการประเมินความเสียหายระหว่างที่เกิดเหตุอาจมีเพียงบ้านเรือนบางส่วนที่ยกพื้นสูงอาจไม่เกิดความเสียหายมากนัก แต่คลื่นของน้ำเวลาที่รถยนต์วิ่งผ่าน ทำให้เกิดคลื่นน้ำเข้าไปยังตัวบ้านหลายพื้นที่โดยเฉพาะบ้านที่อยู่ติดถนน ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับรถที่สวนมา ส่งผลให้มีรถเครื่องยนต์ดับติดคาอยู่บนถนนเป็นจำนวนมาก ส่วนคลื่นน้ำที่กระเพื่อมเข้าบ้านเรื่อน ห้างร้านต่างๆก็สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก โดยเมื่อเย็นวันที่ 16 กันยายน ที่ผ่านมา ทางเทศบาลเมืองพัทยาได้ส่งเจ้าหน้าที่มาช่วยอำนวยความสะดวกด้านการจราจรและเส้นทางการเดินทาง ซึ่งหวังว่าหลังจาก 2-3 ชั่วโมง เมื่อจำนวนมวลน้ำได้ระบายลงทะเล ก็คงจะสามารถใช้ทางได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น

โดยพื้นที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของเมืองพัทยานั้น คล้ายกับที่อำเภอหัวหิน คือ ตั้งขวางทางน้จากทางภูเขาที่จะต้องไหลลงทะเล ดังนั้นเมื่อมีมวลน้ำขนาดใหญ่ผ่านเมืองจึงหลีกเลี่ยงความเสียหายเหล่านี้ไม่ได้ จำเป็นต้องสร้างระบบระบายน้ำขนาดใหญ่ เช่น อุโมงค์ขนาดใหญ่ๆ แบบใน กทม. หลายจุด เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ส่วนเรื่องความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สินนั้นประชาชนที่ไม่ได้มีการ ทำประกันภัย จำใจต้องรับภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ทั้งค่าใช้จ่ายในซ่อมแซม ทำความสะอาดบ้านเรือน สิ่งของเครื่องใช้ ซึ่งโดยปกติถ้าเรามี ประกันภัย ที่ให้ความคุ้มครองเหตุการที่เกิดจากภัยธรรมชาติ น้ำท่วม จะสามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนต่างๆ เหล่านี้ได้ ทั้ง ประกันภัย ที่อยู่อาศัย ที่มีการดูแลเรื่องความเสียหายจากน้ำท่วม รวมไปถึงทรัพย์สินภายในบ้านที่เสียหายจากน้ำท่วม ส่วนกรณีของ รถยนต์ จมอยู่ใต้น้ำ ค่าใช้จ่ายในการดูแลทำความสะอาดภายในรถสู่สภาพเดิม คิดเป็นตัวเงินก็ถือว่ามีจำนวนมาก ซึ่งยังไม่รวมถึงเครื่องยนต์ที่ได้รับความเสียหาย ต้องรับผิดชอบเองทั้งหมด แต่ถ้าหากมี ประกันภัยรถยนต์ ที่คุ้มครองเหตุการที่เกิดจากภัยธรรมชาติ  ก็จะสามารถบรรเทาความเดือดร้อนไปได้อย่างมาก ปัจจุบันมี บริษัทประกันภัย ที่จำหน่าย ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1  ประกันภัยรถยนต์ 2 พลัส และ ประกันภัยรถยนต์ 3 พลัส ที่ดูแลปัญหาเรื่องความเสียหายจากน้ำท่วมให้ด้วย

ที่มา ข่าวประกันภัยทั่วไป เว็บ ทูเดย์อินชัวร์ http://todayinsure.com/index.php?ui=news&tag=other&interface=detail&id=949