จากกรณีก่อนหน้านี้ ที่ นายวัชระ นาดี หรือ ครูเล็ก อายุ 49 ปี ป่วยเป็นมะเร็งก้อนเนื้อที่บริเวณไหล่ข้างขวารุนแรง และมีก้อนเนื้อบวมโต มีน้ำหนักกว่า 10 กิโลกรัม ซึ่งป่วยมาตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม 2558 ทั้งนี้ ครูเล็ก ได้สอนอยู่ที่ วิทยาลัยเทคโนโลยีภาคเหนือ จ.นครสวรรค์ ตำแหน่งหัวหน้าภาควิชาช่างยนต์

แต่ถึงแม้จะป่วยหนัก ครูเล็ก ก็ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค ยังคงแบกก้อนเนื้อร้ายเดินทางไปสอนหนังสือตามปกติ เพียงเพราะเป็นห่วงลูกศิษย์เกรงว่าจะเรียนไม่จบ ซึ่งเจ้าตัวต้องเดินทางไปสอนหนังสือควบคู่ไปกับการรักษาตัว หมดเงินไปกว่า 300,000 บาท และโรคร้ายยังไม่มีทีท่าว่าจะทุเลาลง จนเกิดกระแสให้ความช่วยเหลือจากประชาชนบริจาคเงินเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นกำลังใจในการใช้รักษาตัวให้ดำรงชีพครูต่อไป ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด วันนี้ (4 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของครูเล็ก เลขที่ 486 หมู่ 1 ต.หนองปลิง อ.เมือง จ.นครสวรรค์ หลังมีรายงานว่า ครูเล็ก ได้เสียชีวิตจากโรคมะเร็งก้อนเนื้อแล้ว ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เมื่อเวลา 13.05 ของเมื่อวาน และร่างที่ไร้วิญญาณของครูเล็กได้ถูกนำกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลไว้ที่บ้าน โดยมีญาติพี่น้อง รวมถึงเพื่อนบ้านใกล้เคียงมาร่วมทำพิธีรดน้ำศพเพียง ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ญาติพี่น้องต่างพากันร้องไห้เสียใจกับการจากไป ส่วนศพของครูเล็ก จะมีการทำพิธีสวดอภิธรรมศพอยู่ที่บ้านเกิด เป็นเวลา 5 วัน ก่อนจะเคลื่อนย้ายไปทำพิธีฌาปนกิจที่วัดหนองปลิงต่อไป

จากการสอบถาม นางอัจฉรา ครองบุญ พี่สาวของครูเล็ก เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการนำเสนอข่าวออกไป ทางผู้บริหารของวิทยาลัยเทคโนโลยีภาคเหนือ จ.นครสวรรค์ มีมติเห็นควรที่จะให้ครูเล็กหยุดพักงาน เพื่อรักษาตัวให้อาการทุเลาลง จึงได้พาครูเล็กกลับไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ซึ่งแพทย์ได้แจ้งวิธีการรักษาว่า จะทำการฉายแสงในการรักษาครูเล็กทั้งหมด 19 ครั้ง โดยให้นอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ตนและญาติพี่น้องคนอื่นๆ จะคอยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาเฝ้าครูเล็กทุกวัน

จนกระทั่ง ช่วงบ่ายเมื่อวาน ครูเล็กได้จากไปอย่างสงบขณะนอนหลับอยู่ที่เตียงคนไข้ ซึ่งแพทย์ได้ลงความเห็นว่า ครูเล็กเกิดอาการหัวใจวายเฉียบพลันจากสาเหตุมะเร็งก้อนเนื้อระยะสุดท้าย

“โดยในช่วงระหว่างที่ครูเล็กเข้ารับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล มักจะบ่นคิดถึงลูกศิษย์ และพูดถึงการกลับไปสอนหนักสืออยู่เสมอ โดยมีความหวังว่า การรักษาในครั้งนี้ จะต้องหายขาดให้ได้ เพื่อจะได้กลับไปสอนหนังสือให้ความรู้แก่นักศึกษา แต่สุดท้าย ครูเล็กก็ไม่สามารถทนต่อสู้กับโรคร้ายที่เป็นอยู่ได้ และได้เสียชีวิตไปพร้อมกับการที่ทางวิทยาลัยยุบกิจการ ปิดการสอนในภาคปกติจันทร์-ศุกร์ถาวร เนื่องจากการในภาคเรียนที่ผ่านมา มีนักศึกษามาสมัครเรียนกันน้อย จึงทำให้เปิดสอนไม่ได้ ซึ่งปัจจุบันวิทยาลัยดังกล่าว จะมีเพียงการเปิดสอนพิเศษในวันเสาร์-อาทิตย์เพียงเท่านั้น” นางอัจฉรากล่าว

ด้าน นายชัชวาล ปิ่นศิริ น้องชายของครูเล็ก เปิดเผยด้วยน้ำตานองหน้าว่า เมื่อวานครูเล็กเริ่มมีอาการหายใจติดขัดตั้งแต่เวลา 05.00 น. และอาการยังคงทรุดหนักอย่างต่อเนื่อง จนแพทย์ต้องให้ยากระตุ้นความดันผ่านทางสายน้ำเกลือ พร้อมกับตรวจความดันจับชีพจรให้ พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อจะยื้อครูเล็กยังมีชีวิตอยู่ แต่สุดท้ายครูเล็กก็หยุดหายใจเสียชีวิต ซึ่งก็อยากจะบอกครูเล็กเป็นครั้งสุดท้ายว่า รู้สึกดีใจและภูมิใจที่มีพี่ชายแบบครูเล็ก ที่ผ่านมา เค้าไม่เคยสร้างความเดือดร้อน เค้าเป็นครูที่มีแต่จะให้ ทั้งครอบครัว และให้ความรู้แก่ลูกศิษย์ที่เค้ารักอยู่เสมอ ขอให้ชาติหน้าได้กลับมาเป็นพี่น้องกันอีก

 

ความคิดเห็นจากสมาชิกเฟซบุ๊ก

comments