จากเหตุการณ์ ที่แชร์กันอย่างหนักในโลกออนไลน์ถึงเหตุการณ์ที่ เมียพล.ร.ต.ถีบ สาวท้อง4 เดือน จนต้องแอดมิดนั้น ทราบรายละเอียดดังนี้ เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม น.ส.มาลิณี วรรักษ์ธนานันท์ อายุ 35 ปี ขับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน ฎ 9999 กทม. ได้เกิดมีปากเสียงกับ นางอริษา ปัญญากิตติวัฒน์ อายุ 43 ปี ผู้ขับขี่รถยนต์เบนซ์ ทะเบียนป้ายแดง บ 2911 กทม. โดยสาเหตุมาจากลูกชายวัย 2 ขวบของ น.ส.มาลิณี ได้เปิดประตูรถไปถูกรถเบนซ์ป้ายแดงของนางอริษา ขณะจอดอยู่ที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าย่านทองหล่อ ทำให้เกิดมีปากเสียงและเกิดทำร้ายร่างกายจนทำให้น.ส.มาลิณี ซึ่ง ท้อง 4 เดือนได้รับบาดเจ็บ ต้องเข้ารักษาตัวที่ รพ.คามิลเลียน

ต่อมาเมื่อเวลา 13.00น. วันที่ 16 ตุลาคม ดร.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ประธานองค์กรทำความดี และพล.ร.ต.สมชาย ณ บางช้าง ตัวแทนจากกองทัพเรือ ได้เดินทางมายัง สน.ทองหล่อ เพื่อเป็นตัวแทนในการเจรจาไกล่เกลี่ยจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมด้วยคู่กรณีทั้งสองฝ่าย คือ น.ส.มาลิณี สาวท้อง 4 เดือน พร้อมด้วยนายจีระชัย กังวานก้องสกุล สามี และนางอริษาเจ้าของรถเบนซ์ป้ายแดง เข้าพบกับ พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สน.ทองหล่อ เพื่อไกล่เกลี่ยเจรจากับทั้งสองฝ่ายพร้อมทั้งนำกระเช้าดอกไม้นำมามอบเพื่อเป็นการขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

พล.ร.ต.สมชาย กล่าวว่า ในวันนี้ตนเป็นตัวแทนของกองทัพเรือเพื่อเดินทางเข้ามาไกล่เกลี่ยกับทางคู่กรณี ซึ่งขณะนี้ทั้งสองฝ่ายนั้นได้ไกล่เกลี่ยพูดคุยกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวานนี้ (15 ต.ค.) โดยจะไม่มีการฟ้องร้องหรือการดำเนินคดีความแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามอยากจะขอความเป็นธรรมให้กับทั้งสองฝ่ายด้วย

ด้านนางอริษา ยอมรับว่า เป็นการทะเลาะวิวาทจนถึงขั้นทำร้ายร่างกายกันจริง เพราะด้วยอารมณ์ของทั้งสองฝ่ายที่พาไปจึงเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ทั้งนี้ตามข่าวที่ลงเฟซบุ๊กนั้นเป็นการนำเสนอข้อมูลฝ่ายเดียว จึงอยากจะขอความเป็นธรรมให้กับตนด้วย แต่ในเรื่องของเรื่องราวในสังคมออนไลน์นั้นค่อนข้างรุนแรง ซึ่งทำให้มีผลกระทบต่อครอบครัว

ขณะที่ น.ส.มาลิณี กล่าวว่า หลังจากที่ตนพร้อมสามีได้เดินทางไปตรวจร่างกาย ที่ รพ.คามิลเลียน เมื่อวันที่ 14 ต.ค. ที่ผ่านมา ผลการตรวจร่างกายออกมาพบว่า มีอาการดีขึ้นตามลำดับ ส่วนเด็กในครรภ์ 4 เดือนนั้นปลอดภัยดี ซึ่งหลังจากนี้จะมีการตรวจครรภ์อย่างละเอียดอีกครั้งในสัปดาห์หน้า
ด้าน ดร.ปนัดดา กล่าวว่า สำหรับกรณีที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า หลังจากเกิดเหตุทางฝ่ายสามีของนางอริษาได้เดินทางมายัง สน.ทองหล่อ ด้วยเครื่องแต่งกายของทหารเรือเต็มยศมาข่มขู่คู่กรณีนั้นเท่าที่พูดคุยกับนางอริษา ทราบว่า เนื่องจากวันดังกล่าวนั้นที่สามีของตนแต่งเครื่องแต่งกายมาเต็มยศ เนื่องจากที่กองทัพเรือ เป็นการแต่งตั้งเพื่อรับตำแหน่งจาก ผบ.ทร. เพียงเท่านั้นซึ่งไม่มีการแต่งเครื่องแบบมาทำการข่มขู่คู่กรณีแต่อย่างใด

ส่วนพ.ต.อ.วิรดล กล่าวว่า สำหรับทางเจ้าหน้าที่นั้นจะดำเนินการไปตามขั้นตอน ซึ่งคดีทำร้ายร่างกายกันในคดีนี้ไม่สามารถยอมความกันได้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนของทางเจ้าหน้าที่อยู่และไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดใดๆได้