เด็กสาววัย 14 ปี ออกมาโพสต์รูปพร้อมข้อความ ตีแผ่ประสบการณ์บนเฟซบุ๊คว่า ตนนั้นเป็น อนอเร็กเซีย เนอร์โวซา (Anorexia nervosa) หรือโรค ‘คลั่งผอม’ เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนที่อยากจะผอม แต่ลดความอ้วนอย่างผิดวิธี ซึ่งความอยากผอมของเธอนั้น เกือบทำให้เธอตาย จากเหตุที่อยากผอมเพียงเพราะโดนเพื่อนล้อว่า ‘อ้วน’

ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ‘Kultiwa Youdee’ ได้โพสต์ภาพถ่ายและข้อความ เมื่อวันที้ 3 กันยายน 60 ที่ผ่านมา เล่าประสบการณ์ของตัวเอง ว่าเธอนั้นเป็น อนอเร็กเซีย เนอร์โวซา (Anorexia nervosa) หรือ ‘โรคคลั่งไคล้ความผอม’ ซึ่งเธอได้บอกว่าเธอนั้นชื่อ ‘เกรซ’
อายุ 14 ปี ป่วยเป็นโรค ‘คลั่งผอม’ ช่วงเดือน พฤษภาคม ของปี 2559 และอาการเริ่มหายดีในเดือน พฤษศจิกายน 2559

เธอเล่าว่าตอนเธอเป็นโรค ‘คลั่งผอม’ น้ำหนักตัวเธอต่ำสุดที่ 33.3 กิโลกรัม และสูง 161 เซนติเมตร และสาเหตุที่ทำให้เธอเป็นโรคนี้ เพราะเธอเคยอ้วนมาก่อน และอ้วนมาก แต่เมื่อวัดค่า BMI น้ำหนักของเธอก็อยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่เธอรู้สึกว่าเธออ้วนเพราะเพื่อนที่โรงเรียน ล้อว่าเธอ ‘อ้วน’

หลังจากนั้น เธอจึงเริ่มลดน้ำหนักด้วยการออกกำลังกายทุกวัน แบบหักโหม เช่น วิ่งขึ้นบันไดตั้งแต่ชั้น1ถึงชั้น9ที่โรงพยาบาล วิ่งขึ้นลงประมาณ6รอบทุกครั้งที่แม่ไปทำธุระที่โรงพยาบาล ส่วนเรื่องกิน เธอนับแคลอรี่ทุกครั้งก่อนที่จะกิน และจะไม่กินเกิน1200-1300แคลอรี่ ไม่กินแม่กระทั่งของเหลวทุกชนิด ลดจนน้ำหนักลงมาเรื่อยๆจน หนักแค่ 40 กิโลกรัม เธอคิดว่าพอแล้วแต่ยังไม่พอ เพราะเธอโดนโรค อนอเร็กเซีย เนอร์โวซา (Anorexia nervosa) หรือ ‘โรคคลั่งไคล้ความผอม’ ครอบงำ

จนเธอน้ำหนักเหลือแค่ 34 กิโลกรัม ซึ่งพ่อแม่ต้องบังคับให้กินข้าว แต่ทุกครั้งที่กินจะร้องไห้ และจะล้วงคอให้อ้วกออกมา เพราะกลัวอ้วน จนน้ำหนักลงมาที่ 33.3 เธอก็หักโหมออกกำลังกาย จนเกือบตาย เพราะเวลาที่ยกของหนัก ความดันในปอดจะขึ้น และทำให้ซี่โครงอาจจะไปทิ่มปอดทะลุได้ ซึ่งรูปที่เธอดพสต์พร้อมเรื่องราวนั้นเป็นช่วงที่เธอน้ำหนัก 38.5-39 กิโลกรัม

ทั้งนี้เธอระบุว่า ตอนที่เธอป่วยเป็นโรค ‘คลั่งผอม’ สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ

1.อารมณ์แปรปวนเนื่องจากฮอร์โมนไม่คงที่

2.ผมร่วง

3.หนาวง่ายมากเนื่องจากไม่มีชั้นไขมันปกคลุม

4.มีรานูโก้แฮร์(ขนที่พบในเด็กแรกเกิด)ขึ้นตามตัว

5.เป็นโลหิตจางและโรคอีกหลายๆโรค

6.เป็นแผลกดทับได้ง่าย นั่งเก้าอี้แข็งๆไม่ได้เลย

7.ร้องไห้คนเดียวทุกวัน มีอาการซึมเศร้า

8.ความดันโลหิตต่ำมากๆ คือถ้าปล่อยไว้นานกว่านี้อีกนิดเราอาจไหลตายหรือตายได้ คือเธอแค่73/44

9.สมองประมวลผลช้ากว่าปกติมากอย่างเห็นได้ชัด คือพอขาดสารอาหารสมองเลยผิดปกติ

10.เหนื่อยง่าย ปกติวิ่งขึ้นบันไดไปชั้นสี่ชั้นห้าที่รร.ถึงจะเหนื่อยค่ะ แต่นี่ขึ้นไปสองถึงสามชั้นก็เกือบจะตายเพราะไม่มีแรง

11.ท้องผูกทั้งที่วันๆกินแต่ไฟเบอร์มันก็ไปแพ็คกันในลำไส้เพราะไม่ได้กินอาหารชนิดอื่นเข้าไป(ไฟเบอร์ช่วยทำให้อาหารพวกนี้ออกง่ายขึ้น)

12.กลัวการกินอาหารนอกบ้านมาก

โดยเธอยังระบุทิ้งท้ายเอาไว้อีกด้วยว่า ตอนนี้เธอหายขาดจากโรค ‘คลั่งผอม’ ที่เกิดจากการมีพฤติกรรมการกินที่ผิดปกติ คำนึงถึงแต่น้ำหนัก และเธอขอเตือนว่าถ้าคนข้างกายใครที่เริ่มจะเป็นแบบเธอควรหยุดเขาไว้ เพราะโรคนี้ร้ายแรงกว่าที่คิด อาจจะถึงขั้นเสียชีวิตเลยก็ได้

หลายคนอาจจะมองว่าเธอโชคดีที่รอดมาได้ แต่โชคไม่เข้าข้างเธอเสมอ เพราะตอนนี้เธอต้องกลายเป็นโรคซึมเศร้า และไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่จนหายจากโรคที่เป็นอยู่หรือไม่

ซึ่งภายหลังจากที่โพสต์ของเธอถูกเผยแพร่ออกไปก็มีชาวเน็ตจำนวนมากได้กดไลค์กดแชร์ พร้อมบอกต่อให้รู้และแนะนำเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนที่รู้จัก อีกทั้งยังมีชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาคอมเมนต์ให้กำลังใจ และให้สู้ต่อไป พร้อมให้คำอวยพรบอกให้หายไวไว อีกหลายคอมเมนต์

ข้อมูล ภาพ ข่าว : เฟซบุ๊ก Kultiwa Youdee

ความคิดเห็นจากสมาชิกเฟซบุ๊ก

comments