เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2559 นายเมธัส ผลประเสริฐ ซึ่งเป็นหลานของ นายสมเกียรติ ศรีจันทร์ ชายพิการที่ถูกกลุ่มวัยรุ่น 6 คน รุมทำร้ายจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต ออกมาเปิดเผยกับสื่อว่า ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการเปลี่ยนข้อกล่าวหา 6 วัยรุ่นแล้ว โดยเปลี่ยนเป็นฆ่าคนโดยเจตนา และพกพาอาวุธมีดไปในที่สาธารณะ และทางด้านทนายความทางฝั่งผู้เสียหายเตรียมฟ้องร้องเอาผิดกับหญิงสาวที่คาดว่าเป็น แฟนสาวของหนึ่งใน 6 ฆาตกรชายพิการ มีการออกมาโพสต์ข้อความในเชิงข่มขู่ทนายที่เห็นเหตุการณ์

ทั้งนี้ นายเมธัส ยังกล่าวอีกว่า ตนมีความกลัวและกังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมในคดีนี้ เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นบุตรของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ทาง พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รรท.ผบช.น ) ได้ให้ความมั่นใจว่า จะดำเนินการอย่างเป็นธรรม ซึ่งทางตนและญาติก็มีความเบาใจมากยิ่งขึ้น ส่วนบุตรทั้งสองคนของผู้เสียชีวิตนั้น ทางครอบครัวจะเป็นคนอุปการะในการส่งเสียค่าเล่าเรียนเอง

นอก จากนี้ นายเมธัส ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้ตนยังไม่ได้มีการร้องขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมาคอยคุ้มกันครอบครัว เนื่องจากยังไม่มีเหตุการณ์ที่หวั่นต่อความปลอดภัย

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนันตชัย ไชยเดช ทนายความของญาติ นายสมเกียรติ ศรีจันทร์ ชายวัย 36 ปี ผู้พิการที่เสียชีวิต พร้อมด้วย นายเมธัส ผลประเสริฐ และ นางธันยชนก ศรีจันทร์ ญาติของผู้เสียชีวิตเดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.ปกฉัตร สงวนแวว รองสว.(สอบสวน) เพื่อแจ้งความกับเจ้าของเฟซบุ๊ก ที่อ้างว่าเป็นของหญิง 1 ใน 2 คนที่เกี่ยวพันกับเหตุการณ์ 6 วัยรุ่น ฆาตกรชายพิการ จนเสียชีวิต ในข้อหาข่มขู่ให้เกิดความหวาดกลัวและความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พร้อมนำหลักฐานภาพถ่ายเฟซบุ๊กดังกล่าวมาให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ

นายอนันตชัย กล่าวว่า วันนี้ตนต้องการมาดำเนินคดีหมิ่นประมาทเนื่องจากมีหญิงสาวของหนึ่งในกลุ่ม วัยรุ่นดังกล่าว มีการโพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กว่า “ทนายจอมเ_ือก มีการใส่ร้ายกูด้วย ว่ากูยุยงให้ฆ่ากัน กูมีแต่ไปห้าม มึงมีหลักฐานป่ะล่ะ ว่ากูบอกให้ฆ่ามันให้ตาย แทงมันให้ตาย กูไม่ได้พูดสักคำ” พร้อมทั้งระบุจะถล่มสำนักงานทนายความของตน ด้วย เนื่องจากสำนักงานทนายความของตนอยู่ห่างกับที่เกิดเหตุประมาณ 3 ช่วงตึก ทำให้ตนเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง ตนจึงเข้ามาเป็นพยานในคดีดังกล่าวเพราะเห็นว่าเป็นคดีที่มีความสำคัญ และจากการแถลงข่าวของนายพีรพล ผู้ต้องหานั้น ลักษณะการแถลงข่าวเหมือนกันการจัดฉากเพราะมีการนำภาพจากกล้องวงจรปิด โดยในภาพดังกล่าวมีเพียงรูปที่นายสมเกียรติเดินเข้าไปหาเรื่อง และนายพีรพลยังอ้างอีกว่านำอาวุธมีดมาเพื่อป้องกันตัว ซึ่งหากดูจากวิดีโอแล้วกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวมีการรุมเข้าไปหานายสมเกียรติ มีเพียงนายสมเกียรติที่พยายามถอยหนี หากกลุ่มวัยรุ่นไม่ได้มีการแซวเกิดขึ้นจริงคงไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงดัง กล่าวเกิดขึ้น

อย่างไรก็ตามเมื่อมีการข่มขู่ทำให้ ไม่มีใครมากล้าเป็นพยานเพราะกลัวโดนทำร้ายร่างกาย ตอนนี้ได้ภาพจากกล้องของธนาคารไทยพาณิชย์เพิ่มอีก 1 ตัว จะนำมามอบให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนี้ตนไม่ทราบว่าเฟซบุ๊กดังกล่าวเป็นเฟซบุ๊กจริงหรือปลอม ต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ

ขณะที่นางธันยชนก กล่าวทั้งน้ำตาว่า มีหลายคนที่เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวแต่ไม่มีใครกล้าเข้ามาเป็นพยานเนื่องจาก ขนาดทนายที่มีชื่อเสียงที่ทำคดีให้คนใหญ่คนโตยังโดนข่มขู่ แล้วจะมีใครมากล้าเป็นพยานให้ จึงเหลือแค่เพียง ตน ทนายความ ลูกชาย และลูกสาวเท่านั้น

ด้านนายเมธัส กล่าวว่า ขณะนี้ทางญาติได้เลื่อนการเผาศพออกไปเพื่อรอผลทางคดีให้แล้วเสร็จ อย่างไรก็ตามตนและทางญาติยังคงผวาอยู่เนื่องจากว่ายังคงมีคนมาวนเวียนระแวง ร้านของตน ในวันนี้ตนยังไม่แจ้งความ ในส่วนของตนรอให้ทางญาติทำใจได้ก่อนเพราะต้องเข้าปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ ตำรวจ และจะแจ้งความในข้อหาข่มขู่ให้เกิดความหวาดกลัว

ทั้งนี้ ภายในงานศพของนายสมเกียรติ พล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีมนตรีว่าการกระทรวง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ส่งพวกหรีดพร้อมมอบเงินเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับทางครอบครัวของนายสม เกียรติอีกด้วย

ส่วนทาง ร.ต.ท.ปกฉัตร กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับเรื่องไว้ก่อนที่จะทำการรวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำผู้ที่ มีส่วนเกี่ยวข้อง จึงจะพิจารณาว่าแจ้งข้อหาใดบ้างพร้อมทั้งจะรายงานให้ผู้บังคับบัญชาดำเนิน การต่อไป

 

ความคิดเห็นจากสมาชิกเฟซบุ๊ก

comments