เหยื่อโพสต์ลงเฟซบุ๊ก มีผู้มา แชร์จำนวนมากเตือนภัยว่าตนและเพื่อโดนโชเฟอร์แท็กซี่โหดคว้ามีดฟันแขนแทงหน้าอกจนเลือดอาบหนีออกจากรถไม่ทันใช้มือเกาะเบาะนั่ง ถูกลากร่างไปไกลจนตกรถอาการสาหัส วอน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน ตร.เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดไล่ล่าโชเฟอร์แท็กซี่โหดรายนี้มาดำเนินคดี

หลังจากที่ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กชื่อ Bee Anuchit โพสต์ข้อความที่ตนถูกโชเฟอร์รถแท็กซี่ทำร้ายร่างกายว่า เหตุเกิดเมื่อเวลา 00.50 น. วันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา คือ เรื่องมันเกิดจากหลังจบคอนเสิร์ตที่สวนสนุก wonder world ผมได้โบก รถแท็กซี่ ซึ่งมีเพื่อนผมกับแฟนมันกับด้วย ผมเลยอาสาไปโบกแท็กซี่ให้ ซึ่งผมให้เพื่อนกับแฟนมันรอ ในขณะผมก็เรียก แท็กซี่ ได้คันหนึ่ง (จำไม่ได้ว่าชมพูล้วนหรือเขียวเหลือง) ผมได้ขึ้นไปนั่งบน แท็กซี่ คันดังกล่าวแล้วตกลงสถานที่กัน และเหตุการก็ได้เริ่มขึ้นเมื่อผมบอกมันว่ามีเพื่อนไปด้วยนะอยู่ข้างหน้าประมาณ 5-10 เมตร คนขับแท็กซี่เลยบอกว่าไม่ไป ผมก็เลยพูดไปว่า “ถ้าพี่เปิดไฟว่างแล้วไม่รับคนแบบนี้ พี่ไม่ต้องมาขับแท็กซี่หรอก” ด้วยข้อความนี้ที่ผมได้พูดกับมัน มันคงโมโหเลยหันมาต่อยผมซึ่งตอนนั้นผมไม่รู้ว่ามันมีมีดอยู่ในมือด้วย พอเกิดเหตุในรถได้สักพักเหมือนผมจะหมดแรง ผมได้เปิดประตูรถเพื่อที่จะลงแต่ยังไม่ได้ลงมันก็ขับรถออกไปเลย ซึ่งผมยังติดอยู่รถแบบในหนังคือมือยังเกาะเบาะคนนั่งด้านหน้าซึ่งรถกำลังวิ่งอยู่ในขณะนั้น จนผมไม่มีแรงก็ตกจากรถคันนั้นไป ซึ่งเพื่อนผมเห็นนึกว่าโดนทับขาไปด้วย หลังจากที่ตกลงไปแล้วพอมีสติได้แปปนึงเห็นแขนตัวเองตรงจุดที่มีเส้นเลือดใหญ่ไหลไม่หยุดได้เอามือไปกดห้ามไว้ และเหตุการณ์หลังจากนั้นผมก็จำอะไรไม่ได้แล้ว เนื่องจากเสียเลือดมาก

หลังเรื่องดังกล่าวถูกเผยแพร่ ทำให้มีผู้เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องที่เกิดขึ้นจำนวนมาก พร้อมแสดงความคิดเห็นกรณีคนขับรถแท็กซี่สาธารณะที่มักพกอาวุธและก่อเหตุทำร้ายผู้โดยสารบ่อยครั้ง พร้อมแชร์เพื่อเตือนภัยให้ระมัดระวังการใช้บริการรถแท็กซี่โดยสาร และเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยึดใบอนุญาตขับขี่รถสาธารณะตลอดชีพ ไม่ใช่เพียงแค่ปรับเงินเล็กน้อยเหมือนหลายกรณีที่ผ่านมาเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเช่นนี้อีก

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 18 พ.ย. นายพรชัย ศันสนียานนท์ อายุ 54 ปี บิดาของนายอนุชิต ศันสนียานนท์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60/2 ซอยลาดพร้าว 101 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. ที่ถูกคนขับรถแท็กซี่ ไม่ทราบสีและหมายเลขทะเบียนใช้มีดทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณริมถนนกาญจนาภิเษก ใกล้สวนสนุกวันเดอร์เวิลด์ ตรงข้ามแฟชั่นไอส์แลนด์ ได้เข้าพบ พ.ต.ต.ธวัชชัย มานันตพงศ์ พงส.สน.บางชัน เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมและสอบถามความคืบหน้าคดี

นายพรชัยเปิดเผยว่า วันเกิดเหตุนายอนุชิต ลูกชาย บอกว่าจะไปเดินเที่ยวงาน Cat Expo ที่สวนสนุกวันเดอร์เวิลด์ ย่านรามอินทรา และน่าจะกลับดึก จึงปิดบ้านนอนก่อน ต่อมาเวลาประมาณ 01.30 น. มีเจ้าหน้าที่พยาบาล รพ.สินแพทย์ โทรศัพท์เข้ามาแจ้งว่า นายอนุชิตถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส เสียเลือดมากจนความดันโลหิตต่ำ จึงรีบไปโรงพยาบาล แพทย์แจ้งว่าลูกชายถูกทำร้ายด้วยมีด ได้รับบาดเจ็บบริเวณข้อมือข้างซ้ายเส้นเลือดใหญ่ และเส้นเอ็นถูกตัดขาด มีแผลถูกแทงบริเวณหน้าอกด้านขวาจนปอดฉีก แพทย์เร่งต่อเส้นเลือดและเส้นเอ็นที่ข้อมือ พร้อมเย็บปอดให้จนอาการปลอดภัย ขณะนี้ได้ย้ายลูกชายไปพักรักษาที่ อาคาร 1 ชั้น 6 ห้อง 617 รพ.เปาโลเมโมเรียล โชคชัย 4

ขณะที่นายอนุชิตผู้ได้รับบาดเจ็บเปิดเผยผ่านโทรศัพท์ว่า เป็นพนักงานโรงงานทำอุปกรณ์ประกอบรถยนต์แห่งหนึ่ง ย่านบางปู จ.สมุทรปราการ เมื่อเวลาประมาณ 00.50 น. วันที่ 15 พ.ย หลังจากดูคอนเสิร์ตจบที่สวนสนุกวันเดอร์เวิลด์ ตนและเพื่อนอีก 2 คน ได้เดินออกมาเรียกรถแท็กซี่ ตนอาสาเดินไปโบก แท็กซี่ ให้และบอกให้เพื่อนและแฟนเพื่อนยืนรอ ยืนเรียก แท็กซี่ อยู่หลายคันในที่สุดก็เรียกแท็กซี่ได้หนึ่งคันคือคันเกิดเหตุแต่ตนจำสีและทะเบียนไม่ได้ จากนั้นได้มีการตกลงสถานที่จะให้ไปส่ง โดยโชเฟอร์แท็กซี่ตอบตกลง ก่อนจะเข้าไปนั่งที่เบาะหน้าข้างคนขับ และบอกให้ไปรับเพื่อนอีก 2 คน ที่ยืนรออยู่ข้างหน้าห่างไปประมาณ 10-15 เมตร คนขับเริ่มแสดงอาการไม่พอใจและบอกว่าไม่ไปแล้ว ตนจึงพูดกลับไปว่า “ถ้าพี่เปิดไฟว่างแล้วไม่รับคนแบบนี้ พี่ไม่ต้องมาขับแท็กซี่หรอก” คนขับแท็กซี่ได้ชกที่ใบหน้าทันทีจนเกิดการต่อสู้กัน ตนไม่รู้ว่าคนขับมีมีด ขณะจะก้าวลงจากรถคนขับแท็กซี่ก็ขับรถออกทันที ขาตนตกลงจากรถข้างหนึ่งมือยังเกาะอยู่ที่เบาะที่นั่งลากไปไกลกว่า 15 เมตร กระทั่งตกลงจากรถพบว่าถูกแทงที่ใต้ราวนมด้านขวา และถูกของมีคมปาดเข้าที่ข้อมือด้านซ้าย ก่อนที่เพื่อนจะรีบพาส่งโรงพยาบาล

ด้าน พ.ต.ต.ธวัชชัยกล่าวว่า อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน สอบสวนผู้บาดเจ็บเบื้องต้นไว้แล้ว หลังจากนี้จะประสานให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด แล้วจะนำมาเทียบเคียงกับเวลาที่เกิดเหตุเพื่อหารถแท็กซี่คันที่ก่อเหตุ หากพบตัวคนขับแท็กซี่ที่ลงมือก่อเหตุจะแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายโดยใช้อาวุธมีดไว้ก่อน และคงต้องรอผลการรักษาจากโรงพยาบาลอีกครั้ง หากพบว่าบาดแผลถูกอวัยวะที่สำคัญ อาจทำให้ผู้บาดเจ็บเสียชีวิตได้ก็จะแจ้งข้อหาพยายามฆ่าเพิ่มเติมอีกข้อหา