สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุ ลอบวางระเบิด 2 ครั้งซ้อนในย่านการค้า ที่ กรุงแบกแดด ประเทศอิรัก ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 80 คน และได้รับบาดเจ็บอีกประมาณ 160 คน ซึ่งกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส ได้ออกมาอ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุ

ในช่วงท้ายของเดือนถือศีลอด “รอมฎอน” อันศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิม คนหนุ่มสาวและครอบครัวต่างพากันออกมาเดินตลาดในช่วงเวลาหลังพระอาทิตย์ตกดิน

เหตุระเบิดครั้งแรกเป็นเหตุระเบิดรถยนต์ในเขตคาราดา กลาง กรุงแบกแดด จากนั้นในเวลาไล่เลี่ยกันก็เกิดเหตุระเบิดขึ้นอีกในพื้นที่ทางฝั่งตะวันออกของเมืองหลวง ขณะที่ กลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรงมุสลิมสุหนี่ ได้ออกมาอ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุระเบิดครั้งแรก โดยพุ่งเป้าโจมตีชุมชนชาวมุสลิมชีอะห์ แต่ยังไม่มีใครออกมาอ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุระเบิดครั้งที่ 2

เหตุโจมตี กรุงแบกแดด มีขึ้นหลังจากเมื่อกว่า 1 สัปดาห์ก่อน กองกำลังรัฐบาลอิรักประกาศว่าสามารถยึดคืนเมืองฟัลลูจาห์จากกลุ่มไอเอสได้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว ขณะที่ตลอดช่วงกว่า 1 ปีที่ผ่านมา กองกำลังอิรักได้เดินหน้าปราบปรามกลุ่มไอเอสอย่างต่อเนื่อง ทั้งยึดคืนเมืองรามาดี รวมถึงเขตฮิตและรุตบา ซึ่งทั้งหมดตั้งอยู่ในจังหวัดอันบาร์ ทางฝั่งตะวันตกของกรุงแบกแดด แม้ว่ารัฐบาลอิรักจะคว้าชัยชนะในการต่อสู้หลายครั้ง แต่กลุ่มไอเอสก็ยังสามารถก่อเหตุโจมตีในพื้นที่ห่างไกลเขตแนวรบด่านหน้าได้อย่างต่อเนื่อง

สำหรับกลุ่มไอเอสนั้นยังคงครอบครองเมืองใหญ่สุดอันดับสองของประเทศอิรัก อย่างเมืองโมซูลเอาไว้ แต่ที่ผ่านมา กลุ่มไอเอสได้ปราชัยต่อฝ่ายรัฐบาลหลายครั้ง ทำให้ปัจจุบัน กลุ่มไอเอสครอบครองพื้นที่เพียงร้อยละ 14 ของประเทศ

 

ความคิดเห็นจากสมาชิกเฟซบุ๊ก

comments