จากกรณีที่โลกออนไลน์มีการแชร์ภาพ คนขับรถแท็กซี่ คนหนึ่งกำลัง ช่วยตัวเอง ขณะที่เดินทางไปส่งผู้โดยสารที่งานกาชาด ผู้โดยสารจึงนำภาพมาโพสต์พร้อมกับระบุข้อความว่า นั่งรถแท็กซี่มา งานกาชาด คนเดียว เจอแท็กซี่ป้ายทะเบียน มฉ 4534 ตอนแรกนั่งคุยกันปกติ เอะใจละ ทำไมมันไม่มีชื่อ ไม่มีรูป นามสกุล สักพักหันไปมอง แท็กซี่ชัก…. ก่อนให้จอดลงจากรถขอความช่วยเหลือสายตรวจแถวนั้น และเข้าแจ้งความที่สน.ดุสิต” โดยเหตุการณ์นี้้ เกิดเมื่อเวลา 14.24 น. ของวันที่ 6 เม.ย. ที่ผ่านมา หลังจากภาพนี้ถูกเผยแพร่ออกไปก็มีคนเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันมากมาย

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 เม.ย. ที่สน.ดุสิต พ.ต.อ.ศุภกิจ ต่อบุญ ผกก.สน.ดุสิต,พ.ต.ต.ทัศพล สุขไพบูลย์ สว.สส.สน.ดุสิต พร้อมชุดสืบสวน สน.ดุสิต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ร่วมจับกุม นายสุริยะ ปานเกษม อายุ 49 ปี อาชีพขับรถแท๊กซี่ จับกุมได้ที่ บ้านเลขที่ 1000/77 คอนโดนิรันเรซิเดนซ์ ถนนอุดมสุข แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร มาสอบสวนกับพ.ต.ท.บุนชัยฤทธิ์ สิทธิทองจันทร์ รองผกก.(สอบสวน) สน.ดุสิต หลังจากทำอนาจารตัวเองจนสำเร็จความใคร่ภายในแท็กชี่คันดังกล่าว ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาแก่นายสุริยะ ในข้อหากระทำการอันควรขายหน้าต่อธารกำนัลโดยเปลือยหรือเผยร่างกายหรือกระทำการลามกอย่างอื่น และข้อหาขับรถ (รถยนต์แท็กซี่) โดยใบอนุญาตขับขี่รถสิ้นสุดลงและไม่ปฎิบัติตามกฎกระทรวงที่ออกกำหนดในเรื่องเครื่องแต่งกายเครื่องหมายและการแสดงบัตรประจำตัวคนขับรถยนต์สาธารณะ

ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น. มีนายเจริญ พิรมพงษ์ อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นผู้ครอบครองรถแท็กซี่คันดังกล่าว ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมเผยว่า เมื่อช่วงเช้า(วันนี้)ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาที่บ้านพัก และเชิญตนไปให้ปากคำเพิ่มเติมที่ สน.ดุสิต เบื้องต้นตนไม่รู้จักกับนายสุริยะ มาก่อน สาเหตุที่ไม่ทราบว่านายสุริยะคือใคร เนื่องจากเวลาเปลี่ยนกะรถตนได้นำรถไว้ที่อู่เพื่อให้คู่กะพนักงานของอู่ได้ขับไปรับผู้โดยสารต่อไป อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้เปรียบเทียบปรับแก่ตน ข้อหาฝ่าฝืนกฏกระทรวงเกี่ยวกับผู้ขับทางสาธารณะ มาตรา 5(15) โทษปรับ 1,000 บาท จำนวน 2 ใบ ฝ่าฝืนกฏกระทรวง (ไม่จัดทำ) ส่งประวัติคนขับรถ 5(15) โทษปรับ 500 บาท จำนวน 2 ใบ ซึ่งข้อหาดัวกล่าว ตนไม่ได้เป็นผู้กระทำผิดเนื่องจาก เจ้าของอู่รถแท็กซี่ ย่านรามอินทรา เป็นผู้นำชื่อของตนไปใช้ในการซื้อรถดังกล่าว ก่อนจะนำมาปล่อยเช่า

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ จะทำการสอบปากคำ นายสุริยะ เพิ่มเติม และผู้เสียหาย เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนนำตัวนายสุริยะ ส่งศาลแขวงดุสิต เขตตลิ่งชัน ต่อไป ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางสน.ดอนเมืองได้มีการติดต่อมาที่ สน.ดุสิตว่า ว่านายสุริยะ ได้เคยก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวไว้ที่ สน.ดอนเมือง ทั้งนี้ทางสน.ดุสิตต้องดำเนินการส่งตัวนายสุริยะให้กับ ศาลแขวงดุสิตก่อน ที่ทางสน.ดอนเมือง จะเชิญตัวนายสุริยะ มารับทราบข้อกล่าวเพิ่มเติมและนำตัวส่งศาลแขวงพระนครเหนือ ต่อไป

ด้าน นายณันทพงศ์ เชิดชู รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่าหลังจากเรียกตัวนายสุริยะ มาสอบสวน พบว่ามีใบอนุญาตขับรถสาธารณะ เลขที่ 53000828 และ สารภาพว่ากระทำผิดจริงตามที่ปรากฏเป็นข่าว กรมการขนส่ง จึงสั่งเพิกถอนใบอนุญาตขับรถสาธารณะ ในฐานทำลายภาพลักษณ์ประเทศ พร้อมเปรียบเทียบปรับไม่เกิน 5,000 บาท ตามพ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 ข้อหากระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล หรือกระทำการลามก และ ส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป