ประกันตัว 2แสน เสี่ย เบนซ์ชนฟอร์ด ศาลสั่งห้ามออกนอกประเทศ

จากกรณีอุบัติเหตุ เบนซ์ชนฟอร์ด ที่มี 2 นักศึกษาปริญญาโทเป็นผู้ขับอย่างแรง จนทำให้ไฟลุกคอก 2 นักศึกษาดับคาที ซึ่งคนขับรถเบนซ์คือนายเจนภพ วีรพร ทั้งนี้ศาลอนุมัติ ฝากขัง 12 วัน พร้อมยึดใบขับขี่และห้ามขับรถ และภายใน 12 วันนี้ ต้องมาตามหมายศาลเรียกรายงานตัวและได้มีการยื่นประกันตัวในวงเงิน 2 แสนบาท

พลตำรวจเอกพงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สอบปากคำเจ้าหน้าที่เปล พยาบาล และแพทย์ในเหตุการณ์รับผู้ต้องหาเข้ารักษาที่ห้องฉุกเฉิน ในกรณีเจ้าหน้าที่สืบสวน สถานีตำรวจภูธรพระอินทร์ราชา ตำบลเชียงรากน้อย อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ดำเนินการตามขั้นตอนสอบสวน โดยออกคำสั่งให้วัดค่าแอลกอฮอล์ในเลือดกับผู้ต้องหาหรือไม่ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลบางปะอิน ให้การว่าพนักงานสืบสวนได้สั่งการทางวาจา แต่ได้รับการปฏิเสธจากผู้ต้องหา

และหลังจากขออำนาจศาลออกหมายจับที่ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 2 ข้อหา ขัดขวางการปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่ และขับรถในลักษณะมึนเมา เป็นเหตุให้บุคคลถึงแก่ความตายนั้น ศาลได้อนุมัติฝากขัง 12 วัน และได้รับการประกันตัว ในวงเงิน 2 แสนบาท แต่ต้องอยู่ในเงื่อนไขโดยภายใน 12 วันนี้ ห้ามนายเจนภพ ออกนอกประเทศ ห้ามขับรถ ขณะเดียวกันได้สั่งยึดใบขับขี่ด้วย ทั้งนี้ ภายใน 12 นี้ให้มารายงานตามหมายศาลเรียก

หลังจากนี้ พนักงานสอบสวนรวบรวมหลักฐาน โดยเฉพาะข้อมูลด้านนิติวิทยาศาสตร์ หากครบกำหนด เจ้าหน้าที่สามารถขออำนาจศาลฝากขังได้อีก 12 วัน

ขณะที่ พันตำรวจเอก สุรินทร์ ทับผันบุบผา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีนี้ ระบุว่า เพื่อการสอบสวนคดีเป็นอย่างรวดเร็ว ได้ เปลี่ยนพนักงานสอบสวนชุดเดิม โดยย้าย พันตำรวจเอก พงศ์พัฒน์ สุขสวัสดิ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรพระอินราชา และพันตำรวจโท สมศักดิ์ พลพันขาง พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ไปปฏิบัติงานที่ ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 1 เป็นเวลา 15 วัน นับแต่วันนี้เป็นต้นไป ( 18 มี.ค.59) โดยให้พนักงานสอบสวนชุดใหม่ เข้ารับหน้าที่ทำคดีนี้แทนทั้งหมด จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

ส่วนการปฏิเสธให้ตรวจเลือดของนายเจนภพ วีรพร ผู้ต้องหานั้น สามารถทำได้ โดยตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 16 หากผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตรวจวัดค่าแอลกอฮอล์ใน 3 ทาง คือเจาะเลือด ลมหายใจ พรบ.จราจรทางบก ตามมาตรา 143 วรรค3 บัญญัติให้เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า เมาสุราหรือเมาอย่างใด จนท.จะแจ้งข้อหากลับ ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการแจ้งข้อหานี้กับผู้ต้องหา

ส่วนกรณีภาพคลิปวีดีโอรถผู้ต้องหาฝ่าด่านของทางการพิเศษ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยืนยันเป็นรถคันเดียวผู้ก่อเหตุ ซึ่งได้นำภาพไปประกอบเป็นสำนวนคดี หลังจากนี้ต้องตรวจสอบความเร็ว ลักษณะการขับขี่ และทิศทางการชน คาดว่าจะมีความชัดเจนในคดีภายใน 7 วัน

เบื้องต้น คาดการณ์เกิดจากความประมาทในการขับขี่ตามกฎหมายอาญา 291 โทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ 20,000 บาท แต่ถ้าพบว่ามึนเมาจากสาเหตุใดก็ตาม จำคุกขั้นต่ำ 3-10 ปี