จากกรณีที่ พล.อ.ต.นพ.อิทธพร คณะเจริญ รองเลขาธิการแพทยสภา ได้มีการโพสต์ข้อความเกี่ยวกับจดหมายเวียน โดยเป็นจดหมายที่เขียนเกียวกับปัญหาความเดือดร้อนของ เด็กหญิงอารดา วงษ์ดีเลิศ (น้องไอซ์)บุตรสาวของ คุณหมอกฤษดา วงศ์ดีเลิศ อดีตแพทย์ รพ.กบินทร์บุรี จบแพทย์จากจุฬารุ่นที่ 42 ที่ล้มป่วยและเสียชีวิตจากการทุ่มเทรักษาคนไข้ ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจาก เด็กหญิงอารดา ได้เขียนเรียงความเมื่อ 4 ปีที่แล้ว และได้รับรางวัลในการประกวดเรียงความจากการเขียนเรียงความเรื่อง “ชีวิตของลูกกำพร้า” แต่ทาง นพ.โชคชัย มานะดี ผอ.รพ.กบินทร์บุรี ทราบเรื่องครั้งแรก ได้ประสานสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพื่อทราบเรื่องดังกล่าวจึงเร่งให้ความช่วยเหลือ และสื่อมวลชนเกือบทุกแขนงได้นำเสนอเป้นข่าวใหญ่สะเทือนใจนั้น

นพ.โชคชัยกล่าวว่า เบื้องต้นได้รับทราบข่าวของ เด็กหญิงอารดา ลูกสาว นพ.กฤษดา ซึ่งเสียชีวิตตั้งแต่ปี 2545 จากเฟซบุ๊กช่วงกลางเดือน ม.ค.59 โดยรับทราบว่าน้องไอซ์ป่วยเป็นโรคลมชักจนไม่สามารถมาเรียนตามเช่นปกติได้ จึงประสานกับทางนายรังสรรค์ บุตรเนียร นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลกบินทร์ ที่คอยดูแลช่วยเหลือครอบครัวนี้ตั้งแต่ต้น มอบเงินและสิ่งของบริจาคช่วยเหลือเป็นเบื้องต้น เนื้องจากน้องไอซ์ได้พักการเรียน พร้อมระยะยาวได้จัดตั้งเป็นกองทุนในการให้การช่วยเหลือ มอบเป็นเงิน ,สิ่งของจำเป็น และประสานให้การดูแลเรื่องเรียนต่อจนจบระดับปริญญาตรี มีงานประจำทำเลี้ยงชีพ

นพ.โชคชัยกล่าวว่า จากการสอบถามทราบว่า เด็กหญิงอารดา ต้องการเป็นนักบัญชี โดยได้เงินกองทุนในขณะนี้รวม 370,000 บาท มีคณะกรรมการในการดูแลช่วยเหลือ แบ่งเป็น เงินค่าใช้จ่ายสัปดาห์ละ 1,400 บาท เงินค่าเช่าบ้าน-ค่าไฟฟ้า-ค่าน้ำเดือนละ 1,800 บาท นอกจากนี้ยังมีเงินและสิ่งของที่รับการดูแลช่วยเหลือจากเพื่อนในชุมชน-เทศบาลตำบลกบินทร์ อาทิ รถเข็นของไปขาย และทราบล่าสุดหลังสื่อมวลชนเสนอข่าวแล้ว มีผู้คนใจกุศลแสดงเจตจำนงช่วยเหลือครอบครัวของน้องไอซ์เพิ่มอีกจำนวนมากคาดว่าจะทำให้ความเป็นอยู่ดีขึ้น และมีรายการทีวีหลายรายการนำไปออกรายการสดจนไม่มีเวลาอยู่บ้านช่วงนี้

“สำหรับนพ.กฤษดา วงศ์ดีเลิศ อดีตแพทย์ รพ.กบินทร์บุรีอดีตเคยทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราวอยู่ที่รพ.กบินทร์บุรีประมาณ 6 เดือน ก่อนลาออกมาประจำที่ รพ.โสราเวช(กบินทร์บุรี) ซึ่งเป็นเอกชน และเลิกกิจการไปแล้ว โดยทาง รพ.กบินทร์บุรีไม่ทราบมาก่อนว่าป่วยติดเชื้อ”นพ.โชคชัย กล่าว

นายรังสรรค์ บุตรเนียร นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลกบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า กรณีน้องไอซ์ ภายหลังสื่อมวลชนทุกแขนงเสนอข่าว จนมีหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนยื่นมือเข้าช่วยเหลือเพื่อสร้างความฝันของน้องให้เป็นจริง ครอบครัวของน้องไอซ์ได้ย้ายเข้ามาอยู่ในเขตเทศบาลตำบลกบินทร์ หลังโรงเรียนวัดใหม่ท่าพาณิชย์ เมื่อ 3ปีที่แล้ว โดยเทศบาลตำบลกบินทร์ได้ให้ความช่วยเหลือมาก่อนหน้าเป็นข่าวแล้ว

นายรังสรรค์ กล่าวว่า ย่าของน้องไอซ์ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 700บาท ทางเทศบาลฯยังได้พาทั้งสองคนเข้าไปที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปราจีนบุรี ได้รับความช่วยเหลือเป็นจำนวนเงิน 2,000 บาทต่อเดือน ได้รับเงินจากประธานชุมชนอีก 3,000 บาทต่อเดือน ซึ่งประธานชุมชนได้ให้การช่วยเหลือมาเป็นระยะเวลาร่วม 3 ปี เพิ่งหยุดให้การช่วยเหลือเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากย่าของน้องไอซ์เข้ามาพบแล้วบอกว่าไม่ขอรับเงินแล้ว เพราะน้องไอซ์มีอาการชักบ่อยขึ้นจะขอหยุดพักการเรียน จึงไม่ขอรับเงิน ด้านการเรียนการศึกษา ทั้งที่น้องไอซ์เป็นเด็กเรียนดีตั้งใจเล่าเรียน มีเพียงแค่ปัญหาด้านสุขภาพที่เป็นอุปสรรค แต่ก็เรียนจบระดับมัธยมตอนต้น

ความคิดเห็นจากสมาชิกเฟซบุ๊ก

comments