หลังจากที่มีการแชร์คลิป ถ่ายติดคลิปดัง อุบัติเหตุ “โตโยต้ายาริส ไล่ฆ่าคนบนถนน” ซึ่งรถยนต์คันนี้ขับรถหวาดเสียว และใช้ความเร็วสูงในเขตเมือง แถมยังพยายามขับปาดหน้ารถกระบะคูกรณี ช่วงถนนรามอินทรา จนในที่สุดรถยนต์กระบะดังกล่าวได้เกิดอุบัติเหตุขึ้น ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ตามหลังมาเสียหลักมุดใต้ท้องรถยนต์อีกคันหนึ่ง โดยมีกล้องติดหน้ารถยนต์คันอื่นได้บันทึกเหตุการณ์ไว้ได้  โดยคลิปอุบัติเหตุนี้เกิดขึ้นในวันที่ 9 ก.ค. โดยผู้บันทึกเหตุการณ์ระบุว่า รถยนต์โตยต้า ยาริส สีแดง รถยนต์ปาดคนอื่นไปทั่ว และไล่ปาดหน้าเพื่อที่จะหาเรื่องกระบะคันหนึ่ง และทำให้กระบะเสียหลักไปชนรถยนต์คันอื่นอีกหลายคัน รวมทั้งรถจักรยานยนต์ที่ตามมาอีกคันซึ่งผู้ขับขี่อยู่ในอาการสาหัส โดยผู้ขับขี่รถยนต์คันหนึ่งยังบอกว่าเห็น เจ้าของรถยนต์โตโยต้ายาริสคันดังกล่าวยังมีการยื่นปืนออกมาข่มขู่และเหมือนจะยิงอีกด้วย ซึ่งดูจากคลิปในอุบัติเหตุนี้ เจ้าของรถยนต์โตโยต้ายาริส สีแดง มีความผิดจริง เพราะขับรถยนต์โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น

ต่อมาทางชาวเน็ตกลุ่มหนึ่งได้ให้ข้อมูลผู้ขับขี่รถยนต์เก๋งคันดังกล่าว โดยผู้ขับขี่รถยนต์ โตโยต้ายาริส สีแดง คันนี้  เคยก่อเหตุมาแล้วเมื่อต้นปีซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้น เป็นการขับรถยนต์จี้รถยนต์ของสุภาพสตรีตลอดทางบนถนนมอเตอร์เวย์ และด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย อวดใหญ่อวดโต ก่อนจะหยิบอาวุธลงมาจากหลังรถเพื่อข่มขู่เหมือนจะยิง

หลังจากนักสืบไซเบอร์ได้ตรวจสอบพบว่าเจ้าของรถยนต์คันดังกล่าว แจ้งจดทะเบียนรถยนต์นั่งส่วนบุคคล มีเลขทะเบียน 2กฌ-1098 ในชื่อ นายชาตรี ลิ้มกุล สังกัด ร.11 พัน 1 รอ. กองร้อยอาวุธเบาที่ 3 เมื่อทราบเรื่องดังกล่าวทางผู้สื่อข่าวโดยตรวจสอบไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และเบื้องต้นได้รับคำตอบสั้นๆ ว่า “นายชาตรี หรือ สิบเอกชาตรี ได้พ้นสภาพการเป็นทหารไปนานแล้ว โดยไม่บอกสาเหตุว่าเพราะเหตุใด

ข้อผูกพันธ์ตามกฎหมายของ อุบัติเหตุนี้

ด้านข้อกฎหมาย ทนายณรงค์กริช จิตเที่ยงธรรม ได้ให้ความรู้ไว้ว่า เหตุการณ์นี้มีทั้งความผิด ทางอาญา และทางแพ่ง ซึ่งตามกฎหมาย พรบ. จราจรขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43 ผู้ขับขี่รถยนต์ โตโยต้า ยาริส คันดังกล่าวเข้าข่ายมีความผิดจริง โดยขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น มีโทษ จำคุกไม่เกินสามเดือนหรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถแจ้งข้อกล่าวหาและขอควบคุมตัวได้ทันที เพราะมีหลักฐานประจักษ์อยู่แล้ว ส่วนความผิดทางแพ่งการเรียกร้องค่าเสียหาย ซึ่งทาง บริษัทประกันภัยรถยนต์ ที่ได้ดำเนินการชดใช้ให้กับเจ้าของรถยนต์ และ ทรัพย์สินที่เสียหาย รวมถึงจ่ายค่ารักษาพยาบาลผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งตามกรมธรรม์ประกันภัยมีความคุ้มครองตัวทรัพย์สิน และยังมีความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้าย ซึ่งจะมีค่ารักษาพยาบาล เพิ่มเติมอีกด้วย บริษัท ประกันภัยรถยนต์ สามารถเรียกร้องทางแพ่งจากเจ้าของรถยนต์ยาริสสีแดงได้ทุกกรณี

ความคิดเห็นจากสมาชิกเฟซบุ๊ก

comments