เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 8 กรกฏาคม 2559 มีคนพบศพเพศหญิงถูก ฆ่าปาดคอ ร่างกายเปลือยอยู่ใน ซอยสะแกงาม 26 แยก 1 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน ใกล้ด่วนพระประแดง และห่างจากโรงเรียนวัดสะแกงาม 500 เมตร จึงได้แจ้งให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ พ.ต.ต.ทนงศักดิ์ เพ็ชรประกอบ สารวัตรสอบสวน สน.แสมดำ ผู้รับแจ้งเหตุ พร้อมกับพล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบก.น.9 พ.ต.อ.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผกก.สส.บก.น.9 พ.ต.อ.สำเริง ผลรอด ผกก.สน.แสมดำ ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุอยู่ในพื้นที่จัดสรรเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ พบศพหญิงทราบชื่อต่อมา น.ส.ทุเรียน รอดคำทุย อายุ 24 ปี ชาว จ.อุบลราชธานี ทำงานเป็นพนักงานรายวัน แผนกฉีดพลาสติก ของบริษัท วนวิทย์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ายี่ห้อฮาตาริ ใน ซอยสะแกงาม 27 สภาพศพนอนหงายเปลือยกาย สวมเพียงยกทรงสีชมพู สวมถุงเท้าสีชมพู มีบาดแผลฉกรรจ์บริเวณลำคอถูกปาดด้วยของมีคมจนหลอดลมขาด นอกจากนี้ยังมีบาดแผลถูกแทงเข้าที่อกซ้าย 1 แผล หน้าท้องซ้าย 2 แผล นอกจากนี้ยังพบรอบสักอักขระ 9 ยอด และสาริกา 1 คู่ รอยสักรูปใบไม้ ที่หน้าท้อง

ภายในที่เกิดเหตุพบเสื้อยืดคอกลมสีน้ำเงิน เขียนว่า”ฮาตาริ” เป็นตัวหนังสือภาษาอังกฤษและมีสัญลักษณ์ รูปพัดลม ตกอยู่ ที่ตัวเสื้อมีรอยถูกแทงด้วยของมีคม 3 แห่ง นอกจากนี้ ยังพบกางเกงยีนส์สีน้ำเงินเปื้อนเลือดตกที่ถูกทิ้งอยู่ในร่องน้ำใกล้ที่เกิดเหตุ กางในสีชมพู รองเท้าผ้าใบสีชมพู ถูกทิ้งกระจัดกระจายบริเวณที่เกิดเหตุ และยังพบ รอยหยดเลือดเป็นทางยาวกว่า 100 เมตร

จากการสอบสวนนางจิตรทิพย์ พรหมสุรินทร์ อายุ 55 ปี รองประธานชุมชนวัดสระแกงาม ได้ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขี่ จยย.ออกไปทำธุระก่อนจะพบศพ ตอนแรกขึ้นว่าเป็นหุ่น เพราะไม่มีแสงไฟ จึงลงไปดูก่อนพบว่าเป็นศพ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าทราบ ขณะเจ้าหน้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ได้มีตัวแทนของบริษัท วนวิทย์ แมนูแฟคเจอริ่ง ที่ผู้ตายทำงานอยู่ ได้เข้าดูศพผู้เสียชีวิต พร้อม เปิดเผยว่าผู้ตายเป็นพนักงานรายวัน ชื่อ น.ส.ทุเรียน รอดคำทุย อายุ 24 ปี เพิ่งมาทำงานเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ที่ผ่านมา ได้ค่าแรงวันละ 300 บาทและเข้างานตั้งแต่เวลา 08.00 เลิกเวลา 20.00น กระทั่งมาพบศพ

โดย ทางด้าน พ.ต.อ.พงศ์อานันต์ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าคนร้ายที่ก่อเหตุมีความเป็นไปได้ที่จะมีมากกว่า 1 คน ส่วนสถานที่ลงมือฆ่าปาดคอนั้น น่าจะเป็นสถานที่พบศพเนื่องจากบริเวณนั้นมีกองเลือดเป็นจำนวนมากและพบเส้นผมหลุดเป็นกระจุกใหญ่ สำหรับหยดเลือดที่หยดเป็นทางยาวเจ้าหน้าจะนำมาตรวจสอบอีกครั้งว่าเป็นของคนร้ายหรือผู้เสียชีวิต ส่วนจะข่มขืนหรือไม่นั้นต้องรอผลผ่าพิสูจน์จากทางแพทย์อีกครั้ง ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้ว่าคนร้ายอาจจะมีความแค้นกับผู้ตายก็เป็นไปได้เพราะเนื่องจากลงมือฆ่าแล้วจับแก้ผ้าเพื่อประจาน ซึ่งขณะนี้ได้ให้ทางเจ้าหน้าตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงเพื่อดูรูปพรรณของคนร้าย

โดยแนวทางสอบสวนสอบทราบว่า ผู้ตายเคยมีแฟนแต่เลิกลากันไปแล้ว และพบว่าผู้ตายได้ทะเลาะกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นแฟนของเพื่อน จากนั้นได้โพสด่ากันในเฟสบุ๊ก ซึ่งเจ้าหน้ากำลังติดตามตัวผู้ชายคนนี้มาทำการสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ และก่อนที่ น.ส ทุเรียน จะหายตัวไป ได้มีพยานที่โรงงานยืนยันว่า มีเพื่อนคนงานชื่อ เน มีน เป็นชาวพม่า อายุ 28 ปี และทำงานแผนกเดียวกัน พาผู้ตายออกไป ในช่วงเวลา 20.00 น ของวันที่ 7 ก.ค โดยขับรถจยยฮอนด้า เวฟ สีขาว ไม่ทราบทะเบียนจากนั้นก็ไม่พบผู้ตายกระทั่งมาพบศพ ส่วน นาย เน มีน และแฟนสาวของ นาย เน มีน ชื่อ เซน อายุประมาณ 25 ปี ซึ่งกำลังท้องแก่อยู่ที่ทำงานที่เดียวกันวันนี้ก็ได้หายตัวไปและไม่สามารถติดต่อได้ และเมื่อไปตรวจสอบที่บ้านพักที่ ย่านบางบอน ก็ไม่พบ ตัว นาย เน มีนและแฟน

ต่อมาเมื่อเวลา 15.30น พล.ต ท ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบช.น. ได้เดิน มาที่ สน.แสมดำ มาติดตามความคืบหน้า กรณีคนร้ายก่อเหตุ ฆ่าปาดคอเปลือย น.ส ทุเรียน รอดคำทุย พนักงานสาว โรงงานฮิตาชิ ที่ซอย สะแกงาม 26 เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ทราบว่ามีพยานที่เป็นเพื่อนผู้ตาย เห็น นายเนมีน เอาจยย. ฮอนด้า เวฟ สีขาว-ดำมารับผู้ตาย ที่หน้าที่ทำงานจากนั้นก็หายตัวไป และวันนี้นาย เน มีน ก็ไม่มาทำงาน จะเป็นไปได้มั้ยว่า เป็นผู้ที่ต้องสงสัยจะก่อเหตุ พล.ต.ท ศานิตย์ กล่าวว่า “เป็นไปได้เรากำลังทำการพิสูจน์ทราบและพิสูจน์สัญชาติว่าเป็นใคร และจะคาดว่าจะออกหมายจับได้ในวันนี้”

ส่วนประเด็นปมสังหารนั้นตั้งไว้หลายประเด็นทั้งเรื่องชู้สาว-และชิงทรัพย์ส่วนจะข่มขืนหรือไม่นั้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นของแพทย์ ไม่พบร่องรอยการฉีกขาด อย่างไรต้องรอผลในวันพรุ่งนี้

 

ความคิดเห็นจากสมาชิกเฟซบุ๊ก

comments